รื้อซากอาคาร สตง. คืบหน้า พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวม 51 ราย คาดสิ้น เม.ย. เข้าถึงชั้น 1 ได้ตามแผน

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – ความคืบหน้าล่าสุดจากเหตุการณ์อาคารถล่มในพื้นที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการรื้อถอนและค้นหาร่างผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตที่พบจากซากอาคารขณะนี้อยู่ที่ 51 ราย ขณะที่การทำงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะสามารถเข้าถึงซากอาคารบริเวณชั้น 1 ได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสถานการณ์และความคืบหน้า

นายสุริยชัย กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคารว่า ขณะนี้ความสูงของซากอาคารในโซน A และ D เหลืออยู่ที่ 9.78 เมตร ส่วนโซน B และ C ซึ่งเป็นจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ส่วนยอดซากอาคารที่สูงที่สุดอยู่ที่ 8.58 เมตร ล่าสุดเมื่อวานนี้ (21 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตที่สมบูรณ์ได้ 2 ร่าง ที่โซน C และในวันนี้ (22 เม.ย. 68) ได้มีการพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ร่าง ในบริเวณช่องบันไดเดียวกับที่พบร่างเมื่อวาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการนำร่างออกจากพื้นที่อย่างระมัดระวัง

สำหรับกระบวนการขนย้ายซากอาคารออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้การทำงานสะดวกขึ้น นายสุริยชัย กล่าวว่า วานนี้มีการดำเนินการขนซากออกไปแล้วกว่า 221 เที่ยว ทำให้บริเวณหน้างานมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานของเครื่องจักรหนักจำนวน 28 ตัว ที่กำลังทำงานสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักร เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ อปพร. จากเขตบางแคและเขตบางบอน เข้ามาเสริมกำลัง การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์และปริมาณซากอาคารที่ลดลง คาดว่าจะสามารถเข้าถึงซากอาคารบริเวณชั้น 1 ได้ตามแผนภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

เมื่อสอบถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน นายสุริยชัย ระบุว่า แม้จะมีปัจจัยด้านสภาพอากาศ ทั้งอุณหภูมิความร้อนและฝนตก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากผู้ควบคุมรถเครื่องจักรหนักทำงานอยู่ในห้องปรับอากาศ และมีการฉีดน้ำเพื่อควบคุมฝุ่นละออง ซึ่งมีส่วนช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติงานได้ด้วย

ในส่วนของการพิสูจน์หลักฐานและอัตลักษณ์ผู้สูญหาย พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร กล่าวเสริมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างและชิ้นส่วนอวัยวะที่พบจากซากอาคาร โดยมีจำนวนร่างที่สมบูรณ์ประมาณ 50 ร่าง และมีชิ้นส่วนอวัยวะอีกกว่า 100 ชิ้นส่วน อย่างไรก็ตาม การยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์อย่างละเอียด โดยก่อนหน้านี้มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 37 ราย และเพิ่มขึ้น 3 รายเมื่อวานนี้ (รวม 40 ราย) และในที่ประชุมวันนี้มีมติที่จะยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 5 ราย

พล.ต.ต.วาที ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มติที่ประชุมจะยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเมื่อพบชิ้นส่วนอวัยวะสำคัญที่สามารถยืนยันการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน เช่น ช่องอก หรือสันหลัง แม้จะขาดชิ้นส่วนอวัยวะส่วนอื่น เช่น มือหรือเท้า ก็จะพิจารณาเป็นการยืนยันการเสียชีวิตและปล่อยร่างให้กับญาติ เพื่อให้ญาติที่เฝ้ารออยู่ได้นำไปประกอบพิธี โดยล่าสุด ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สามารถยืนยันอัตลักษณ์ได้ 99% และสามารถยืนยันชื่อได้ทุกคนอยู่ที่ 49 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับยอดร่างที่ทาง สปภ. กู้ขึ้นมาจากซากอาคารได้ 50 ร่าง (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เม.ย. 68 ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 51 ราย)

สำหรับการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณซากอาคาร เพื่อหาสาเหตุของการถล่มนั้น พล.ต.ต.วาที ระบุว่า กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปดำเนินการเก็บหลักฐานตามรอบเวลาที่ทาง สปภ. กำหนด โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้น เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งขณะนี้ยังได้หลักฐานไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้ทราบสาเหตุของอาคารถล่มที่ชัดเจนต่อไป

ทั้งนี้ ข้อมูลผู้ประสบภัย ณ วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. ระบุว่า มีผู้ประสบภัยทั้งหมด 103 ราย เสียชีวิต 51 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และยังคงติดค้างอยู่ภายในซากอาคาร 43 ราย (ตัวเลขผู้เสียชีวิต 51 ราย นี้ สอดคล้องกับยอดรวมผู้เสียชีวิตที่พบล่าสุด ณ วันที่ 22 เม.ย. 68 ตามที่ สปภ. แถลง)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *