สุรินทร์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ เข้าควบคุมตัวชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ มีอาการเมาสุรา พูดจาวกวน และส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ณ สถานีรถไฟจังหวัดสุรินทร์ ก่อนนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนการสึก หลังตรวจสอบไม่พบใบสุทธิสงฆ์

รายงานข่าวจากศูนย์วิทยุ 191 จังหวัดสุรินทร์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 21 เมษายน 2568 ระบุว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รถไฟว่ามีชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์แสดงอาการมึนเมาและก่อกวนผู้โดยสารที่บริเวณสถานีรถไฟสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรีบเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ 2 นายเดินทางมาถึงสถานีรถไฟ พบชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์นั่งอยู่บนม้าหินอ่อนสำหรับผู้โดยสารใกล้กับห้องน้ำ มีลักษณะอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาเอะอะโวยวายเสียงดัง สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปเพื่อสอบถามและพูดคุย

ทันทีที่ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีท่าทีตกใจและพยายามเดินหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวและสอบถามเบื้องต้น ชายคนดังกล่าวให้การสับสน พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ได้กลิ่นสุราคละคลุ้งออกมาจากตัวอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่ร่วมสังเกตการณ์ได้พยายามสอบถามถึงภูมิลำเนาและจุดหมายปลายทางของการเดินทาง แต่ชายคนดังกล่าวให้การวกวน โดยบอกเพียงว่ามาจากจังหวัดปัตตานี จะเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา และไม่ยอมบอกว่าจำวัดอยู่ที่วัดใด

เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นย่ามและถุงกระสอบซิปที่อยู่กับตัว พบเพียงบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายธนเดช อายุ 49 ปี มีบ้านพักตามบัตรประชาชนอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังพบเอกสารใบอบรมบางอย่างและเสื้อผ้า แต่สิ่งที่สำคัญและไม่พบคือ ใบสุทธิสงฆ์ ซึ่งจากการสอบถาม นายธนเดช ยอมรับว่าไม่มีใบสุทธิสงฆ์

ในระหว่างที่รอรถยนต์สายตรวจ (รถโล่) เพื่อนำตัวไปที่สถานีตำรวจ นายธนเดช ยังคงมีท่าทีพยายามจะเดินหลบหนีออกจากพื้นที่อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าควบคุมตัวกลับมานั่งที่เก้าอี้หินอ่อนอีกครั้ง พร้อมทั้งพูดจาหว่านล้อมจนกระทั่งรถยนต์สายตรวจเดินทางมาถึง ก่อนจะนำตัว นายธนเดช ส่งไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ เพื่อให้สงบสติอารมณ์และพักผ่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 22 เมษายน 2568 จะได้นำตัว นายธนเดช ซึ่งไม่พบหลักฐานการเป็นพระสงฆ์อย่างถูกต้อง และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มาทำการซักถามข้อมูลอย่างละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ชายคนดังกล่าวออกจากสภาพการแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ หรือที่เรียกกันว่า ‘จับสึก’