นายกฯ แพทองธาร ยัน ยังไม่ปรับ ครม. ตอนนี้! ลั่น ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง พร้อมรับฟังทุกความเห็น
ทำเนียบรัฐบาล, 22 เมษายน 2568 – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.00 น. ยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีตามที่มีกระแสข่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังผลโพลที่สำรวจความเห็นประชาชนว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ตนพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย รวมถึงผลสำรวจต่างๆ เพื่อนำไปพิจารณา
น.ส.แพทองธาร กล่าวเน้นย้ำหลักการที่ว่า “ที่จริงใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่ว่าตำแหน่งอะไร ตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่งของใครคนใดคนหนึ่ง เราควรทำใจให้นิ่งไว้” เพื่อสื่อสารไปยังทุกคนที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าอาจมีการปรับพรรคภูมิใจไทยออก และนำพรรคพลังประชารัฐเข้ามาร่วมรัฐบาลแทนนายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า “คำถามนี้แรงขึ้นมาเลย ต้องบอกว่ายังไม่มีอย่างนั้น ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงความเป็นไปได้ในการนำพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาลในอนาคต และการที่เคยระบุว่าจะไม่จับมือกับผู้ทำรัฐประหาร น.ส.แพทองธาร ชี้แจงว่า คำพูดนั้นเป็นเรื่องเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และสถานการณ์ปัจจุบันคือพรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องร่วมมือกันเนื่องจากคะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ซึ่งการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐก็เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว
นายกรัฐมนตรีแสดงความต้องการให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยกล่าวว่า ตนชอบทำงานเป็นทีมและทำงานแบบไม่ต้องแข่งขันกันภายใน สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องขัดแย้งกันในแต่ละกระทรวง และไม่ชอบการแตกความสามัคคี
เกี่ยวกับเสียงสะท้อนจากพรรคและผลโพลที่แนะนำให้ปรับรัฐมนตรี โดยเฉพาะในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย (ยังไม่ตกผลึก) ทุกอย่างยังเหมือนเดิมตามที่กล่าวไป แต่ยืนยันว่ารับฟังทุกความคิดเห็น
ในประเด็นความเห็นที่อาจแตกต่างกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องการปรับ ครม. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความเห็นต่างกับคุณพ่อมีอยู่ตลอด ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกัน แต่ยืนยันว่าคงไม่ไปถึงจุดที่ทำให้เกิดปัญหาแน่นอน
นายกรัฐมนตรีสรุปว่า การทำงานของ ครม. ชุดปัจจุบันมีความสามัคคีดี ทุกคนพยายามทำตามนโยบายอย่างเต็มที่ แม้บางนโยบายอาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้