ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีช่วยเหลือ นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต โดยพิพากษาจำคุก นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตพนักงานอัยการอาวุโส เป็นเวลาคนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 6 คน ซึ่งรวมถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ศาลสั่งยกฟ้อง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด พร้อมจำเลยคนอื่นๆ รวม 8 คน ได้เดินทางมายังศาล เพื่อรับฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

จำเลยทั้ง 8 คน ถูกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172, 192

คดีนี้มีมูลเหตุมาจากการที่จำเลยทั้งหมดถูกกล่าวหาร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดีของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์สปอร์ตหรูยี่ห้อปอร์เช่ เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 โดยการเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานดังกล่าว เช่น คำให้การพยาน และการคำนวณความเร็วรถยนต์ มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง

จำเลยทั้ง 8 คนในคดีนี้ประกอบด้วย:

• พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
• พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.กองพิสูจน์หลักฐาน
• พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ
• นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด
• นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตพนักงานอัยการอาวุโส
• นายธนิต บัวเขียว
• นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่
• รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักฟิสิกส์ อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา โดยพิพากษาว่า นายเนตร นาคสุข และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม มีความผิดจริง และสั่งจำคุกคนละ 3 ปี

ศาลให้เหตุผลในการพิพากษาว่า ในส่วนของ นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม มีพฤติการณ์เข้าไปอวดอ้างตนเองและสถานะการเป็นอัยการ เพื่อแทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวน ไม่ให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ ถือเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว

สำหรับ นายเนตร นาคสุข ศาลเห็นว่าใช้อำนาจในการสั่งฟ้องคดีของนายวรยุทธโดยมิชอบ มีเจตนาช่วยเหลือให้รับโทษน้อยลง โดยมีการอ้างอิงคำให้การของพยาน 2 ปากที่เพิ่งมาให้การภายหลังเหตุการณ์ผ่านไปนาน ซึ่งศาลเห็นว่าคำให้การของพยานปากดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ แต่นายเนตรกลับใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ ทั้งที่ตนเองเป็นอัยการระดับสูง ควรจะต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ศาลเห็นว่าเป็นการวินิจฉัยคดีที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง และใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ ทั้งๆ ที่ควรนำตัวนายวรยุทธเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การกระทำของนายเนตรก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรอัยการอย่างมาก การกระทำของทั้งนายเนตรและนายชัยณรงค์ มีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

ส่วนจำเลยรายอื่นที่เหลืออีก 6 คน รวมถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ศาลได้พิพากษายกฟ้อง