กัน จอมพลัง พาป้าเหยื่อรถปาดหน้า ร้องกระทรวงยุติธรรม ขอคุ้มครองพยานและเงินเยียวยา ยายเผยยังหวาดกลัวเหตุการณ์

กรุงเทพฯ – วันที่ 22 เมษายน 2568 – นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาคุณป้าสมศรี วัย 64 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุจากกรณีรถเก๋งขับปาดหน้าอย่างน่าหวาดเสียวจนเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน เดินทางเข้ายื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้พิจารณาการคุ้มครองพยาน และขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ในขณะที่คุณป้าสมศรียังคงแสดงความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุณป้าสมศรี ซึ่งนั่งรถวีลแชร์มา เปิดเผยถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า อาการบาดเจ็บของตนเองดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และภาพการชนยังติดตาอยู่ตลอด ส่วนอาการของคุณลุงซึ่งเป็นผู้ขับขี่ สามีของคุณป้า คุณหมอยังคงต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด อาการยังคงทรงตัวในระดับ 50-50

คุณป้าเล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ตนพยายามยกมือไหว้ขอโทษหรือถามคู่กรณีว่าไปทำอะไรให้ แต่คู่กรณีก็ยังคงขับปาดไปมาอย่างน่าหวาดเสียว ทำให้สามีไม่สามารถจอดรถได้เนื่องจากอยู่บนทางด่วน จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างรุนแรง

“วันนั้นป้ากลัวมาก ยกมือไหว้บอกเขาว่าอย่าทำอะไรเลย แต่เขาก็ยังขับปาดไปปาดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนชนค่ะ” คุณป้าสมศรีกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

สิ่งที่ทำให้คุณป้าตกใจยิ่งกว่าคือ หลังเกิดเหตุ คู่กรณีได้ถอยรถมาดู เมื่อเห็นสภาพคุณลุงที่หน้านิ่งไปแล้ว แต่คู่กรณียังคงชี้หน้าตะโกนด่า และบอกว่า “ถ้าจอดก็ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้” ซึ่งสร้างความเจ็บปวดใจให้กับคุณป้าอย่างมาก

คุณป้าสมศรีกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พ่อของคู่กรณีเดินทางมาที่โรงพยาบาลว่า ตนเองไม่ได้อนุญาตให้เข้าพบ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้กันไว้แล้ว แต่พ่อคู่กรณีพยายามจู่โจมมาถึงหน้าประตู ตนเองไม่ได้พูดอะไร หลังถ่ายรูปก็กลับไป ส่วนจดหมายที่คู่กรณีส่งมาให้ ตนก็ยังไม่พร้อมที่จะอ่านและยังทำใจให้เข้าพบไม่ได้ เนื่องจากภาพเหตุการณ์ยังหลอกหลอนอยู่

“ตอนนี้รู้สึกจุกอก พูดอะไรไม่ออก ไม่กล้าที่จะพูด” คุณป้ากล่าวและเสริมว่า สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือให้คู่กรณีเข้ามาช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถ เพื่อที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่ชนบทตามปกติ ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้

คุณป้าสมศรีได้มอบหมายให้ กัน จอมพลัง และลูกสาว เป็นผู้ดำเนินการประสานงานกับคู่กรณีทั้งหมด

ทางด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ได้ประสานงานเบื้องต้นกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งท่านได้มอบหมายให้นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ได้รับเรื่องจากครอบครัวผู้เสียหาย 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องการขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งในส่วนของคุณป้าเป็นผู้เสียหายโดยตรงตาม พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาอย่างชัดเจน ส่วนของคุณลุงซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ต้องรอผลการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ทางกระทรวงฯ ก็รับคำขอไว้แล้ว และจะส่งเรื่องไปให้คณะอนุกรรมการที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ พิจารณาค่าเยียวยาต่อไป

เรื่องที่สองคือ การขอการคุ้มครองพยาน เนื่องจากครอบครัวและคุณป้ารู้สึกไม่ปลอดภัยและเกรงกลัว ซึ่งทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ มี พ.ร.บ. คุ้มครองพยานรองรับ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินความเสี่ยงและดูแลความปลอดภัยเบื้องต้นให้

กัน จอมพลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่ต้องรีบพามาที่กระทรวงยุติธรรมวันนี้ เพราะค่ารักษาพยาบาลคุณลุงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ทางคู่กรณียังไม่ได้เข้ามาดูแล การช่วยเหลือไม่สามารถรอได้ อีกทั้งยังมีเรื่องความปลอดภัยที่ครอบครัวผู้เสียหายรู้สึกกังวลอย่างมาก เนื่องจากมีการข่มขู่คุกคามเกิดขึ้นกับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวในโซเชียล รวมถึงตัวเขาเอง ทำให้คุณตาและคุณยายหวาดกลัวไปด้วย

มีรายงานว่า คุณตาได้ปฏิเสธการรักษาบางอย่างที่โรงพยาบาลเนื่องจากความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย ทำให้มีอาการแทรกซ้อน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การที่พาครอบครัวและคุณยายมาดำเนินการที่กระทรวงยุติธรรมในวันนี้ ก็เพื่อให้ครอบครัวสบายใจและไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว

นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังกล่าวถึง คุณหนิง ปณิตา ดาราชื่อดัง ที่ได้ติดต่อมาเสนอความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวผู้เสียหายอีกด้วย