22 เม.ย. 2568, ชุมพร – เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เดินหน้าปฏิบัติภารกิจสำคัญในการปกป้องความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล โดยล่าสุดได้ดำน้ำลงพื้นที่เกาะจระเข้และหลักง่าม เพื่อเก็บกวาดขยะที่ทำลายระบบนิเวศ และตรวจสอบรวมถึงเก็บกู้อุปกรณ์ประมงผิดกฎหมาย ซึ่งเปรียบเสมือน ‘ภัยเงียบ’ ที่คุกคามแนวปะการังและสัตว์ทะเลอย่างรุนแรง

ภารกิจในครั้งนี้ นำโดยนายอุกฤษฏ์ ดีทองอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และทีมสนับสนุนจากศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งทางทะเลที่ 1 (ชุมพร) ได้มุ่งเน้นการทำงานใต้น้ำ ณ บริเวณที่มีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงจากกิจกรรมของมนุษย์

การดำน้ำลงไปเก็บขยะใต้น้ำ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่ทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ขยะประเภทต่างๆ โดยเฉพาะพลาสติกและเศษซากอื่นๆ ที่ถูกทิ้งลงทะเล ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพอันงดงามของโลกใต้ทะเล แต่ยังเป็นอันตรายโดยตรงต่อสัตว์ทะเล ทั้งจากการกินเข้าไป หรือการเข้าไปติดพัน นอกจากนี้ ขยะเหล่านี้ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับแนวปะการังที่เปราะบางได้อีกด้วย

นอกเหนือจากการเก็บกวาดขยะแล้ว อีกหนึ่งภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดคือ การตรวจสอบและเก็บกู้อุปกรณ์ทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นอวนลอบ หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้ในแนวปะการังอย่างผิดกฎหมาย เครื่องมือเหล่านี้คือ ‘ภัยเงียบ’ ที่สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรทางทะเลอย่างมหาศาล สัตว์ทะเลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปลา เต่าทะเล หรือแม้กระทั่งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก อาจเข้าไปติดพันในอวนที่ถูกทิ้งไว้ ซึ่งเรียกว่า ‘อวนผี’ และตายลงในที่สุด การเก็บกู้อุปกรณ์เหล่านี้ จึงเป็นการตัดวงจรการทำลายระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ

นายอุกฤษฏ์ ดีทองอ่อน กล่าวว่า การปฏิบัติภารกิจใต้น้ำเช่นนี้ ทั้งการเก็บขยะและการตรวจสอบเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมักได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน ชุมชนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์

การทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ มีเป้าหมายสูงสุดคือ การดูแลรักษา ‘บ้าน’ ของเหล่าสัตว์ทะเล และรักษาความสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรให้คงอยู่ยั่งยืน เพื่อเป็นแหล่งอาศัยที่ปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามสำหรับคนรุ่นหลังต่อไป