เชียงใหม่ – ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์อุกอาจคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองประทีป ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 21 เมษายน 2568 ซึ่งคนร้ายได้เงินสดไปประมาณ 42,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว สร้างความแตกตื่นและกังวลใจให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ธนาคาร.

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน (21 เมษายน 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ต. [ชื่อผู้บังคับการ/รองผู้บังคับการที่เกี่ยวข้อง] ได้เร่งแกะรอยคนร้ายทันที โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามเส้นทางต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัย ซึ่งเบาะแสทั้งหมดชี้ไปที่ นายอริยะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดน่าน.

จากการสืบสวน ทราบว่าภายหลังก่อเหตุ นายอริยะ ได้ขึ้นรถสี่ล้อแดงที่เรียกจากบริเวณหน้าธนาคาร มุ่งหน้าไปยังบริเวณแยกพรอมเมนาด้า โดยใช้วิธีการสแกนจ่ายเงินค่าโดยสารจำนวน 300 บาทผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการติดตามเส้นทางการหลบหนี จากนั้นผู้ต้องหาได้เรียกใช้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (แก๊ป) เพื่อเดินทางต่อไปยังเป้าหมายถัดไป คือการไปซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ เพื่อใช้ในการหลบหนีต่อไป.

เมื่อได้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กม 4296 เชียงใหม่ มาครอบครองแล้ว นายอริยะ ได้ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าหลบหนีออกนอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางถนนเชียงใหม่ – เชียงราย ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งสู่ภาคเหนือตอนบน.

อย่างไรก็ตาม การหลบหนีของนายอริยะก็สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนซึ่งติดตามไล่ล่ามาอย่างไม่ลดละ สามารถติดตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือและพบเห็นผู้ต้องหากำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนเส้นทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าสกัดจับกุมตัวได้ที่บริเวณศาลาริมทางใกล้กับดอยนางแก้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย.

จากการตรวจค้นตัว นายอริยะ เจ้าหน้าที่พบเงินสดจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์มาจากธนาคารกสิกรไทย โดยผู้ต้องหาได้นำไปซุกซ่อนไว้ภายในรองเท้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญอีกชิ้นคือเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์คันใหม่ที่ผู้ต้องหาเพิ่งซื้อมาจากร้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดเงินสดจำนวนดังกล่าวและเล่มทะเบียนรถไว้เป็นของกลางทั้งหมด.

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายอริยะ มายังสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อทำการสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ในเร็วๆ นี้ เพื่อสรุปสำนวนคดีและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.