บริษัทเหล็กไทย-จีน แถลงโต้ผลทดสอบคุณภาพ ปมเหตุตึกสูง กทม. ถล่มหลังแผ่นดินไหว
กรุงเทพฯ – บริษัทเหล็กสัญชาติไทย-จีน ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในวันจันทร์ (21 เมษายน 2568) ภายหลังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งนำไปสู่การสอบสวนเหตุอาคารสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครถล่มลงมาภายหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเดือนที่แล้ว
เหตุการณ์อาคารดังกล่าวถล่มเกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ กว่า 1,200 กิโลเมตร อาคารแห่งนี้เป็นเพียงอาคารเดียวในกรุงเทพฯ ที่ถล่มลงมาอย่างสิ้นเชิงในวันนั้น (28 มีนาคม 2568)
แผ่นดินไหวครั้งดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คนในเมียนมา ขณะที่ในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิต 47 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณที่อาคารถล่ม และยังมีผู้สูญหายอีก 47 ราย
เหตุอาคารถล่มได้จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้าง และบทบาทของผู้รับเหมาก่อสร้างสัญชาติจีนที่ดำเนินงานโดยรัฐ คือ China Railway No. 10 Engineering Group นำไปสู่การจับกุมนายจาง ซึ่งเป็นผู้บริหารชาวจีนของบริษัทดังกล่าวในประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ (19 เมษายน 2568) ในข้อสงสัยว่าดำเนินการธุรกิจโดยใช้บุคคลอื่นเป็นนอมินี
ตามกฎหมายไทย ชาวต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ แต่ต้องเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรชาวไทย และถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 49 เพื่อปกป้องความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเปรียบเสมือนเอฟบีไอของไทย เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นชาวไทย 3 รายของบริษัทยังคงถูกต้องการตัวในข้อหาต้องสงสัยว่าเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ดีเอสไอยังกำลังตรวจสอบคุณภาพของวัสดุก่อสร้าง และพิจารณาว่าบริษัทอาจกระทำการทุจริตในการประมูลหรือไม่
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้เผยแพร่วิดีโอออนไลน์เพื่อประชาสัมพันธ์อาคารดังกล่าว ซึ่งเดิมมีจุดประสงค์จะเป็นสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีการใช้ภาพจากโดรนจำนวนมากและโอ้อวดถึงคุณภาพของการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการโครงการ
สัปดาห์ที่ผ่านมา วิศวกรชาวไทยคนหนึ่งได้แจ้งความกับตำรวจ โดยอ้างว่ามีการปลอมแปลงชื่อและลายเซ็นของเขาในฐานะผู้ควบคุมโครงการในแผนการก่อสร้างฉบับหนึ่ง ซึ่งเขายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้แต่อย่างใด
บริษัท ซินเค หยวน สตีล (Xin Ke Yuan Steel) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่มีชาวจีนถือหุ้นบางส่วน ตกเป็นเป้าการตรวจสอบเกี่ยวกับคุณภาพของเหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารดังกล่าว ใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัทนี้ถูกสั่งพักชั่วคราวอยู่ในขณะนี้ ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้ายแรงที่โรงงานในจังหวัดระยองเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นายอรรคนิษฐ์ พรหมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เหล็กเส้นสองชนิดที่พบในบริเวณที่อาคารถล่มไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และเหล็กทั้งสองชนิดนั้นจัดหาโดยบริษัท ซินเค หยวน สตีล เขาได้เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัทเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 เพื่อหาหลักฐาน โดยกล่าวว่า ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เหล็กที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ภายหลังการสั่งพักใบอนุญาตเมื่อเดือนธันวาคม ได้รับการทดสอบแล้วสองครั้งและไม่ผ่านการทดสอบทั้งสองครั้ง
เมื่อวันจันทร์ (21 เมษายน 2568) ทีมทนายความจากบริษัท Sinceryuan Steel Company Limited ได้จัดการแถลงข่าวที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ เพื่อโต้แย้งผลการทดสอบ โดยยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยแล้ว และพวกเขากำลังถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเมื่อถูกถามเจาะจงเกี่ยวกับผลการทดสอบเหล็กเส้นของบริษัทที่พบในจุดที่อาคารถล่ม
ก่อนหน้านี้ กรมสรรพากรได้แจ้งความกล่าวหาบริษัท ซินเค หยวน สตีล ว่าออกใบกำกับภาษีปลอมกว่า 7,000 ฉบับ ทีมทนายความของบริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวในวันจันทร์เช่นกัน
ทางการไทยระบุว่า การค้นหาคนงานที่ยังสูญหายยังคงดำเนินต่อไป