กระทรวงสาธารณสุขแจงดราม่าพาวิลเลียนไทยเวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ยันงบ 900 ล้านคุ้มค่า เน้นสุขภาพ-เศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ — ผู้จัดงานพาวิลเลียนไทย ในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาชี้แจงต่อข้อวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเกี่ยวกับงบประมาณกว่า 27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 900 ล้านบาท) ซึ่งบางส่วนในโลกออนไลน์มองว่าสูงเกินไปเมื่อเทียบกับเนื้อหาที่นำเสนอ และยังถูกมองว่าเป็น ‘การออกแบบแบบเอกชน แต่เนื้อหาแบบราชการ’

เรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลัก ได้จัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์

ดร. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า งบประมาณ 27 ล้านเหรียญสหรัฐ (900 ล้านบาท) จริง ๆ แล้วน้อยกว่างบประมาณ 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,200 ล้านบาท) ที่ใช้ในการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งก่อนที่ดูไบ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการจัดงานที่ญี่ปุ่นจะสูงกว่า

ดร. นพ.โอภาส ยอมรับว่า การเตรียมงานมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มขึ้นในปี 2020 แต่ยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบของราชการไทย ขณะเดียวกันก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดของประเทศญี่ปุ่นด้วย

ในส่วนของข้อวิจารณ์ด้านเนื้อหา ดร. นพ.โอภาส กล่าวว่า พาวิลเลียนมีเป้าหมายเพื่อแสดงศักยภาพด้านสุขภาพของประเทศไทย ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านโอกาสในการจับคู่ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมนวดไทย ซึ่งเป็น soft power ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้

พาวิลเลียนไทย ซึ่งออกแบบโดยบริษัท A49 Architects มีการออกแบบที่เน้นเอกลักษณ์ไทยด้วยหลังคาแบบไทยประยุกต์ พร้อมผนังกระจกขนาดใหญ่ ภายใต้แนวคิดหลัก “Immunity” หรือ ภูมิคุ้มกัน ซึ่งเน้นเรื่องธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหาร และสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าชมบางส่วนให้ความเห็นว่า ควรเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพสมัยใหม่มากกว่าองค์ประกอบทางประวัติศาสตร์ ซึ่งพวกเขามองว่าน่าจะสอดคล้องกับแนวคิดของงานเอ็กซ์โปที่มุ่งสู่อนาคตมากกว่า

นับตั้งแต่เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา พาวิลเลียนไทยมีผู้เข้าชมประมาณ 10,000 คนต่อวัน ดร. นพ.โอภาส กล่าวว่า แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็มีคำชื่นชมจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะจากผู้เข้าชมชาวต่างชาติ

ดร. นพ.เกริกฤทธิ์ ลิมปพะยอม รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดแสดงแล้ว พาวิลเลียนยังมีกิจกรรมสาธิตนวดไทยเป็นประจำทุกวัน โดยเน้นการนวดเพื่อบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเป็นการนำเสนอศาสตร์การนวดไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO สำหรับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน นี้

เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 6 เดือน จะมีผู้เข้าชมพาวิลเลียนไทยมากกว่า 3 ล้านคน คิดเป็น 10% ของผู้เข้าชมงานทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับชื่อเสียงของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *