นครรัฐวาติกัน – นครรัฐวาติกันได้ประกาศข่าวเศร้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ได้สิ้นพระชนม์แล้ว

คาร์ดินัล เควิน เฟอร์เรล (Cardinal Kevin Ferrell) ผู้ดำรงตำแหน่ง Camerlengo (ผู้จัดการทรัพย์สินของสันตะสำนักในช่วงที่ไม่มีพระสันตะปาปา) เป็นผู้แถลงข่าวนี้ โดยกล่าวว่า “เมื่อเวลา 7 นาฬิกา 35 นาทีของเช้าวันนี้ พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ฟรานซิส ได้กลับคืนสู่บ้านของพระบิดาแล้ว ชีวิตทั้งหมดของพระองค์อุทิศเพื่อการรับใช้พระเจ้าและศาสนจักรของพระองค์”

คาร์ดินัล เฟอร์เรล ยังกล่าวเสริมว่า “พระองค์ทรงสอนให้เราใช้ชีวิตตามคุณค่าแห่งพระวรสารด้วยความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ และความรักสากล โดยเฉพาะต่อผู้ที่ยากจนที่สุดและผู้ที่ถูกทอดทิ้ง” และแสดงความรู้สึกว่า “ด้วยความสำนึกในบุญคุณอย่างยิ่งสำหรับแบบอย่างของพระองค์ในฐานะศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูเจ้า เราขอมอบดวงวิญญาณของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไว้ในความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดและเปี่ยมด้วยพระเมตตาของพระเจ้า พระผู้เป็นหนึ่งและตรีเอกภาพ”

การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิริพระชนมายุ 88 พรรษา เกิดขึ้นหลังจากที่พระองค์ทรงมีปัญหาด้านสุขภาพในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอาการปอดบวมรุนแรง ซึ่งทำให้พระองค์ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาถึง 5 สัปดาห์ และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 เมษายน 2025) ในวันอีสเตอร์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเพิ่งจะปรากฏพระวรกายต่อหน้าผู้คนหลายพันคน ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร (St. Peter’s Square) เพื่อประทานพร Urbi et Orbi (ถึงนครและถึงโลก) โดยพระองค์ทรงดูมีพระกำลังขึ้นมาก และสร้างความประหลาดใจด้วยการเสด็จด้วยรถ Popemobile ผ่านจัตุรัส ซึ่งเรียกเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือจากฝูงชนอย่างกึกก้อง

พระองค์ได้หยุดเป็นระยะเพื่อประทานพรแก่ทารกที่ผู้คนนำมาให้ ซึ่งเป็นภาพที่เคยพบเห็นได้บ่อยในอดีต แต่ยากที่จะนึกถึงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เมื่อพระองค์ทรงต้องต่อสู้กับอาการป่วยหนัก

ในวันอีสเตอร์นั้น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ตรัสว่า “พี่น้องชายหญิง สุขสันต์วันอีสเตอร์!” ด้วยพระสุรเสียงที่ฟังดูแข็งแรงกว่าที่เคยเป็นนับตั้งแต่พระองค์ออกจากโรงพยาบาล

การจากไปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับคริสตจักรคาทอลิกและผู้คนทั่วโลก ซึ่งต่างร่วมกันไว้อาลัยและระลึกถึงคำสอนและแบบอย่างชีวิตของพระองค์