นายกฯ ปัดตอบปรับ ครม.-ข่าวเขย่าภูมิใจไทย! รอฟังพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) แซว ‘ประเสริฐ’ ปรับให้แล้ว หลังเรียก ‘จุลพันธ์’ ผิดเก้าอี้ รมช. แฝงนัยถึง มท.
อิมแพ็คเมืองทองธานี, 21 เมษายน 2568 – ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยังคงร้อนแรงประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากนิด้าโพลที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ รวมถึงมีคำถามถึงกระแสข่าวความพยายามที่จะเขย่าตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธาร ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดในขณะนี้ โดยกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ไว้พรุ่งนี้” และเมื่อถูกถามย้ำเกี่ยวกับข่าวการเขย่าพรรคภูมิใจไทย นายกรัฐมนตรีก็เพียงหัวเราะและส่ายศีรษะ พร้อมกล่าวย้ำว่าจะให้สัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ (22 เมษายน) อย่างแน่นอน
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยและกล่าวติดตลกกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่เดินทางมาร่วมงานเดียวกัน โดย น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวแซวนายประเสริฐ พร้อมเสียงหัวเราะว่า “เมื่อกี้ ท่านประเสริฐ ปรับให้เรียบร้อยแล้ว ขอแซว เขาพูดผิด จึงแกล้งแซว”
การแซวนี้มีที่มาจากการที่นายประเสริฐได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ SML ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด โดยในระหว่างการรายงานนั้น นายประเสริฐได้กล่าวถึงตำแหน่งของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แต่กลับระบุตำแหน่งผิดเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีกล่าวแซวดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ การที่นายประเสริฐกล่าวผิดตำแหน่งนายจุลพันธ์จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวการเมืองที่พยายามเชื่อมโยงการปรับคณะรัฐมนตรีเข้ากับตำแหน่งสำคัญในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญและถูกจับตาเป็นอย่างมากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน การแซวของนายกรัฐมนตรีจึงถูกตีความว่าอาจมีนัยยะบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับข่าวคราวความเคลื่อนไหวในกระทรวงนี้ แม้จะเป็นเพียงการแซวจากการกล่าวผิดก็ตาม
ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (22 เมษายน) เพื่อรอฟังความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการปรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงท่าทีต่อกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น.