ตำรวจ ปส. แถลงจับยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 13 ล้านเม็ดในภาคเหนือ รมว.ยุติธรรม สั่งคุมเข้มชายแดน พร้อมเผยสถิติปราบปรามทั่วประเทศ

ตำรวจ ปส. แถลงจับยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 13 ล้านเม็ดในภาคเหนือ รมว.ยุติธรรม สั่งคุมเข้มชายแดน พร้อมเผยสถิติปราบปรามทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 21 เมษายน 2568 – ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) วันนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติดครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาลกว่า 13.2 ล้านเม็ด และรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด 2 คัน

ในคดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 (บก.ปส.3) ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และสำนักงาน ป.ป.ส. เฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือ หลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ กระทั่งวันที่ 7 เมษายน 2568 พบความเคลื่อนไหวของรถกระบะต้องสงสัยในพื้นที่หมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์ และในวันที่ 8 เมษายน 2568 พบรถกระบะคันดังกล่าวขับออกมา โดยบรรทุกกะหล่ำปลีเต็มคันท้ายกระบะ มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อรถมาถึงบริเวณด่านตรวจยาเสพติดแก่งปั้นเต้า อ.เชียงดาว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาบ้าจำนวน 12,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้กะหล่ำปลีอำพราง

สำหรับคดีที่สอง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ได้จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 คน พร้อมยาบ้า 1,200,000 เม็ด หลังสืบทราบว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่บ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถกระบะต้องสงสัยจากบ้านผาหมี จนกระทั่งรถคันดังกล่าวไปจอดที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย ต่อมามีชาย 2 คนเดินมาที่รถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น แต่ชายคนขับได้เปิดประตูรถและวิ่งหลบหนีไปด้านหลังห้างฯ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ซึ่งเป็นเยาวชนได้ 1 คน และตรวจค้นพบยาบ้า 1,200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารตอนหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผลติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเน้นย้ำว่า แม้จะจับกุมผู้ต้องหาและของกลางได้จำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญคือการขยายผลไปถึงตัวผู้บงการหรือนักค้าในระดับสั่งการ พร้อมระบุว่าในช่วงปีที่ผ่านมา แม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น (เช่น แผ่นดินไหว) แต่ปัญหายาเสพติดยังคงมีการลักลอบลำเลียงอยู่ โดยยาเสพติดที่จับกุมได้ส่วนใหญ่มีอักษร Y1 และมักจะเข้ามายังแหล่งพักยาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนส่งต่อไปยังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ ยังพบแนวโน้มการใช้ผู้ขนยาเสพติดที่มีอายุน้อยลง แต่ยืนยันว่าการใช้เยาวชนกระทำผิดไม่มีผลต่อการลดหย่อนโทษทางกฎหมาย เพียงแต่จะส่งเข้าสู่กระบวนการของศาลเด็ก เยาวชนและครอบครัว

ด้าน พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การลักลอบลำเลียงยาเสพติดช่วงเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ มักจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้กระทำผิดอาศัยจังหวะที่ประชาชนเดินทางจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันปราบปรามตั้งแต่ต้นทางตามแนวชายแดน กลางทางตามเส้นทางหลัก และปลายทางในพื้นที่ตอนใน โดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น รวมถึง พ.ร.บ.สมคบคิด เพื่อยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ขณะเดียวกันก็มีการเอกซเรย์พื้นที่ในชุมชนต่างๆ เพื่อปราบปรามผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวเสริมว่า สาเหตุที่พบการใช้ผู้ขนยาเสพติดที่มีอายุน้อยลง อาจเป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปิดกั้นพื้นที่ชายแดน ทำให้ผู้สั่งการหาผู้ลักลอบขนที่เข้าข่ายปกติได้ยากขึ้น จึงอาจต้องหันมาใช้ผู้ที่มีอายุน้อยลงแทน

สำหรับสถิติผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งสิ้น 136,189 ราย ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้ากว่า 566 ล้านเม็ด, ไอซ์ กว่า 30,300 กิโลกรัม, เฮโรอีน 896 กิโลกรัม, คีตามีน 4,068 กิโลกรัม และยาอี 123,087 เม็ด ที่น่าสังเกตคือ สามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดได้รวมมูลค่าสูงถึงกว่า 5,301 ล้านบาท

ส่วนสถิติของ บช.ปส. เอง ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้ 679 คดี ผู้ต้องหา 680 คน ของกลางยาบ้า 194 ล้านเม็ด, ไอซ์ 12,526 กก., เฮโรอีน 205 กก., คีตามีน 710 กก. และยาอี 581 เม็ด โดยสามารถยึดอายัดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติดได้กว่า 1,566 ล้านบาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *