อ.ธรณ์ โพสต์ถึง ‘ผู้ประกอบการดี-คนทำผิด’ ด้าน อธิบดีกรมทะเลฯ โผล่เมนต์ ‘รอที่ท่าน้ำ’ โซเชียลแห่ตีความเชื่อมโยงปมร้อน
กรุงเทพฯ – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ซึ่งได้รับความสนใจและมีการแสดงความคิดเห็นจากชาวโซเชียลเป็นจำนวนมาก
ใจความสำคัญของโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “คนทำผิดสมควรโดนตักเตือนและลงโทษ แต่ผู้ประกอบการดีๆ มีอยู่มาก ไม่มีพวกเขาพวกเธอเหล่านั้น เราคงฟื้นฟู ‘อ่าวมาหยา’ ไม่สำเร็จครับ”
โพสต์นี้ของ ดร.ธรณ์ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีกระแสข่าวและประเด็นถกเถียงในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับผู้ประกอบการและประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย
ชาวเน็ตจำนวนมากระบุว่ารอคอยให้ ดร.ธรณ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำลังเป็นที่จับตา และหลายคนต่างเชื่อมโยงโพสต์ดังกล่าวเข้ากับประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหน่วยงานด้านการอนุรักษ์และผู้เกี่ยวข้อง
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการคือ การปรากฏตัวของ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของ ดร.ธรณ์ อย่างอารมณ์ดี โดยระบุว่า “ใจจดใจจ่อ รอพี่ที่ท่าน้ำอยู่ตั้งนาน 555” ซึ่งคอมเมนต์นี้ยิ่งเพิ่มความสนใจให้กับโพสต์ และทำให้เกิดการตีความเพิ่มเติมถึงความเชื่อมโยงระหว่างสองบุคคลสำคัญในแวดวงการอนุรักษ์ทางทะเลและสิ่งแวดล้อม
การที่ผู้เชี่ยวชาญระดับ ดร.ธรณ์ ออกมาเน้นย้ำถึงบทบาทและความสำคัญของผู้ประกอบการที่ดี ควบคู่ไปกับการยืนยันว่าผู้กระทำผิดสมควรได้รับการลงโทษ สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ต้องการสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยยกตัวอย่างความสำเร็จในการฟื้นฟูอ่าวมาหยา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการร่วมมือของผู้ประกอบการ
ขณะเดียวกัน คอมเมนต์จาก อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ก็แสดงให้เห็นถึงการรับรู้และความคาดหวังต่อการแสดงความเห็นของ ดร.ธรณ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีบทบาทและอิทธิพลต่อสาธารณะในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลมาโดยตลอด
ประเด็นนี้ยังคงถูกพูดถึงในวงกว้างบนโซเชียลมีเดีย โดยมีการตีความและแสดงความคิดเห็นถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโพสต์และคอมเมนต์ดังกล่าว ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการรับรู้ของสาธารณะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป