ทำเนียบรัฐบาล, 21 เมษายน 2568 – นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสมคิดกล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวเป็นความเห็นของกลุ่มตัวอย่างประชากรจำนวน 1,300 คน ซึ่งเป็นเพียงการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนเท่านั้น แต่อำนาจในการตัดสินใจปรับ ครม. ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว

“เท่าที่ผมได้พูดคุยกับท่านนายกฯ ตอนนี้ยังไม่มีการพูดจาอะไรในเรื่องนี้ ดังนั้นเรื่องโพลก็เป็นเรื่องที่ประชาชนแสดงความเห็นไป ซึ่งโพลมีการสอบถามถึงความเห็นในการปรับเปลี่ยนในทุกกระทรวง หากจะทำตามโพลทั้งหมดก็คงต้องปรับทุกกระทรวง” นายสมคิดกล่าวและยืนยันว่าเชื่อว่ารัฐบาลยังคงทำงานต่อไป และอำนาจการปรับ ครม. เป็นของนายกฯ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ถูกระบุเป็นอันดับหนึ่งที่ประชาชนอยากให้ปรับเปลี่ยนนั้น สอดคล้องกับเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมคิดยอมรับว่า ในส่วนหนึ่งก็ได้ยินสมาชิกพรรคพูดถึงเรื่องนี้จริง โดยหลายคนแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังคงตกต่ำในพืชผลบางชนิด เช่น ข้าวนาปรังและมันสำปะหลัง แม้ว่ายางพาราและปาล์มจะมีราคาดีอยู่ก็ตาม

“ฉะนั้น กระทรวงพาณิชย์ก็จะต้องไปปรับปรุงเร่งรัดในการทำงาน เชื่อว่าหากมีเวลาสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น แต่ตามผลโพลที่ออกมาก็เห็นทุกเรื่องอยู่ว่าอยากให้ปรับ” นายสมคิดกล่าวและเสริมว่าการพูดคุยเรื่องเหล่านี้ในพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องปกติ ส.ส. ที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนมักนำปัญหาเรื่องราคาพืชผลมาสะท้อนในที่ประชุมพรรค ซึ่งตรงกับผลโพลพอดี และเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เองก็ได้รับฟังปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับ ครม. นายสมคิดให้ความเห็นว่า ตนไม่ทราบแน่ชัดว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร แต่โดยปกติแล้วหากจะมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ก็มักจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ผ่านการพิจารณาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน โดยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระแรกช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

“โดยหลักการปรับ ครม. เป็นเรื่องปกติ มีการปรับในทุกรัฐบาล จะปรับก่อนหรือหลังงบประมาณฯ ผมก็ไม่แน่ใจ” นายสมคิดกล่าว

ส่วนประเด็นว่านอกเหนือจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยถึงการสลับหรือโยกย้ายรัฐมนตรีในกระทรวงอื่น ๆ หรือไม่ นายสมคิดระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงขั้นนั้น โดยการสะท้อนความคิดเห็นส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ปัญหาเรื่องราคาพืชผลตกต่ำที่ประชาชนต้องการให้ปรับปรุง

สำหรับความพอใจของพรรคเพื่อไทยต่อกระทรวงที่พรรคดูแลอยู่นั้น นายสมคิดกล่าวว่า “ก็พอใจ ผลงานเริ่มมีออกมาบ้างแล้ว บางอันก็ไม่ได้ดั่งใจ ประชาชนก็เข้าใจอยู่ว่าใจร้อน แต่อย่าลืมว่าเรามาอยู่ในภาวะเศรษฐกิจมันถดถอย ตกต่ำ เลยกลายเป็นเรื่องที่เราต้องทำงานอย่างหนัก”