ปราจีนบุรี – เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2568 ได้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงและสร้างความโศกสลดขึ้นบริเวณทางลงเขาโทน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง – หนองคาย หมายเลขทะเบียน 10-7125 อุดรธานี ได้พุ่งชนเข้ากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จำนวน 3 คัน ที่กำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อยานพาหนะ และมีผู้บาดเจ็บรวมถึงผู้เสียชีวิตจำนวนมากในที่เกิดเหตุ

รายงานเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง ซึ่งได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ระบุว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 7 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงคนขับรถบัส ซึ่งถูกอัดติดคาพวงมาลัยในสภาพที่น่าสลดใจ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตเป็นผู้ช่วยคนขับ และผู้โดยสารอีก 5 ราย

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผู้โดยสารอีกจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บถึง 39 ราย โดยแบ่งเป็นชาย 24 คน และหญิง 15 คน ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดอย่างเร่งด่วน เพื่อนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรับการรักษาพยาบาลต่อไป

นายลำสันต์ พวงพู่ หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกที่ขับตามหลังรถบัสคันเกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเห็นรถบัสคันดังกล่าวขับลงเขามาด้วยความเร็วที่สูงมากจนผิดสังเกต ซึ่งทำให้ตนคาดการณ์ได้ทันทีว่ารถคันนี้น่าจะมีปัญหาเรื่องระบบเบรก หรือ อาจจะเบรกแตก จึงได้ชะลอความเร็วและขับตามมาห่างๆ ก่อนที่จะพบว่ารถบัสได้พุ่งชนเข้ากับรถบรรทุกพ่วงที่อยู่ด้านหน้าอย่างรุนแรง จนเกิดอุบัติเหตุสลดขึ้น

นายลำสันต์เล่าต่อว่า เมื่อเห็นเหตุการณ์ ตนได้รีบจอดรถและลงไปให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยได้พยายามตะโกนเรียกให้ผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถบัสรีบออกมาจากตัวรถให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ตัวรถบัสคันที่เกิดเหตุก็ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์ยิ่งอันตรายและเป็นนาทีชีวิตสำหรับผู้ที่ยังติดอยู่ในรถ

ทางด้าน พันตำรวจโท ศิวภัสส์ ภูริพัศชัยบุญชู สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุและรีบเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์ พยาบาล กู้ภัย และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อร่วมกันดำเนินการในที่เกิดเหตุอย่างเต็มที่ ทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัย การชันสูตรพลิกศพ การเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงการจัดการกับซากรถที่ประสบเหตุ

จากอุบัติเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการปิดกั้นการจราจรบนทางลงเขาโทนเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การปิดการจราจรในครั้งนี้กินเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดสะสมบนเส้นทางดังกล่าวอย่างหนัก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถเปิดเส้นทางให้รถยนต์สามารถทยอยเคลื่อนตัวผ่านไปได้ในเวลาต่อมา

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนพยานแวดล้อม ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนขับรถบรรทุกพ่วงที่ประสบเหตุอย่างละเอียด และจะทำการตรวจสอบสภาพตัวรถบัสคันเกิดเหตุร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุสลดในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.