นครราชสีมา – เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ตลาดเซฟวันโคราช ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดนครราชสีมา จากพรรคประชาชน ได้นำทีมผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ลงพื้นที่พบปะประชาชนและขอคะแนนเสียงอย่างคึกคัก

ทีมหาเสียงนำโดย “เหน่ง” นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หมายเลข 1 พร้อมด้วยทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ทั้ง 4 เขต หมายเลข 1-6 ในนามพรรคประชาชน ได้เดินเท้าเข้าไปทักทายพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการค้าภายในตลาดเซฟวัน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน หรือกลุ่ม Gen Y-Z.

บรรยากาศการลงพื้นที่เป็นไปอย่างอบอุ่นและได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ตลอดเส้นทางการเดินหาเสียง มีประชาชนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะแฟนคลับของนางสาวพรรณิการ์ วานิช เข้ามาขอถ่ายรูปเซลฟี่และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง สร้างความฮือฮาในตลาด ขณะเดียวกัน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดหลายรายยังได้นำอาหาร ขนม หรือเมนูเด็ดของร้านมามอบให้ทีมผู้สมัครและคณะ เพื่อเป็นการต้อนรับและเป็นของฝาก แสดงถึงการตอบรับที่เป็นมิตร

นางสาวพรรณิการ์ วานิช กล่าวเปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า เป็นการเน้นย้ำให้ชาวโคราชได้ตระหนักรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตเมืองโดยตรง และมีงบประมาณในการบริหารจัดการที่มาจากภาษีประชาชนปีละกว่า 1,700 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ประชาชนจะต้องเลือกผู้บริหารที่มีความสามารถและโปร่งใสเข้ามาดูแล

เธอยังได้กล่าวเชิญชวนและกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนชาวนครราชสีมา โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นกันให้มาก เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เหมือนกับที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2566 ที่พรรคประชาชนสามารถชนะการเลือกตั้งได้ถึง 3 เขตเลือกตั้งในเขตเมืองโคราช พร้อมแสดงความคาดหวังว่า ปาฏิหาริย์แห่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอีกครั้งในการเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้.

การลงพื้นที่ตลาดเซฟวันในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคประชาชนในการเข้าถึงและสื่อสารกับประชาชนกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยตรง ซึ่งตลาดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมตัวของคนกลุ่มนี้จำนวนมาก และหวังว่าการรณรงค์ในครั้งนี้จะสามารถแปลงเป็นคะแนนเสียงให้กับทีมผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมาถึงได้.