จับแล้ว! หนุ่มกุเรื่องถูกลอบยิง สารภาพปืนลั่นใส่ตัวเอง หนีคดีนานปี ก่อนรวบบนรถไฟ
นราธิวาส/สงขลา – ตำรวจทางหลวงประสานกำลังตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ และชุดสืบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ตามจับกุมชายอายุ 39 ปี บนขบวนรถไฟมุ่งหน้าภาคใต้ หลังสืบทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีแจ้งความเท็จและครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุกุเรื่องว่าถูกลอบยิงเมื่อปลายปี 2566 แต่จากการสอบสวนพบความจริงที่น่าตกใจว่า แท้จริงแล้วเขาทำปืนลั่นใส่ตัวเอง
คดีนี้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายมะอุสมาน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 1003/2566 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2566 โดยสามารถจับกุมได้บนขบวนรถไฟที่ 169 เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะที่ผู้ต้องหากำลังโดยสารรถไฟเพื่อมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2566 นายมะอุสมาน ได้เดินทางเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมแจ้งต่อแพทย์และพยาบาลว่า ตนเองถูกคนร้ายลอบยิงได้รับบาดเจ็บ ต่อมา พยาบาลได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงได้เดินทางไปสอบปากคำนายมะอุสมานอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานในบริเวณที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าถูกลอบยิง
แต่จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ กลับพบข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากคำให้การของผู้ต้องหาอย่างสิ้นเชิง พยานหลักฐานชี้ชัดว่า นายมะอุสมาน ไม่ได้ถูกใครลอบยิงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่เป็นการทำปืนพกพาของตัวเองเกิดลั่นใส่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในภายหลังว่า ที่ไม่กล้าบอกความจริงกับพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งแรกนั้น เนื่องจากกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ภายหลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับนายมะอุสมาน ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับข้อมูลว่า นายมะอุสมาน กำลังโดยสารมากับขบวนรถไฟที่ 169 จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่หาดใหญ่ จึงได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ชป.3 สายใต้) และชุดสืบสวน สภ.รือเสาะ เพื่อร่วมกันวางแผนจับกุม
เมื่อขบวนรถไฟเดินทางมาถึงบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมนายมะอุสมาน ได้โดยไม่มีการขัดขืน จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงได้แจ้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ได้แก่ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และพกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายมะอุสมาน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.