กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 เมษายน 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี นำโดย พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายธนภัทร อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางหลายรายการ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา นายสิรวิชณ์ หรือ “โจ๊ก รามอินทรา” เซียนพระชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ว่าถูกลูกจ้างของคนรู้จัก ซึ่งทำบริษัทขนส่งและตนได้นำพระเครื่องไปฝากเก็บไว้ ได้ทำการงัดแงะและลักเอาองค์บูชาไอ้ไข่และพระเครื่องอื่น ๆ ไป

ทรัพย์สินที่ถูกลักไปรวมประมาณ 9 รายการ ประกอบด้วย องค์บูชาไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ รุ่นยอดทรัพย์64 เนื้อโลหะผสม ผิวกะไหล่ทอง ขนาด 9.9 นิ้ว (เลข 4802), เหรียญมงคลแปดเหลี่ยมไอ้ไข่วัดเจดีย์ (เนื้อทองเหลือง, เนื้อเงิน, เนื้อทองแดง), พระบูชาพ่อท่านเจ้าวัด, พระกริ่งพ่อท่านเจ้าวัด, เหรียญหล่อไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์, รูปหล่อลอยองค์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์, มหาสังข์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ พิมพ์ใหญ่, มหาสังข์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ พิมพ์เล็ก และเหรียญขวัญถุงไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 16,755,586 บาท

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบหลักฐานชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุคือนายธนภัทร ซึ่งเป็นลูกจ้างของเจ้าของห้องเก็บพระ ที่ได้รับความไว้วางใจให้ถือกุญแจห้องดังกล่าวไว้ ผู้ต้องหาได้ใช้กุญแจที่ตนเองมีอยู่ เปิดเข้าไปลักทรัพย์ในห้องหลายครั้ง ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม, 1, 4, 6, 8, 9 และ 10 เมษายน 2568

ต่อมา ศาลอาญามีนบุรีได้อนุมัติหมายจับนายธนภัทร ในข้อหา “ลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง” และในวันนี้ (20 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวนายธนภัทร ได้ที่บ้านพักในซอยนวมินทร์ 111 แยก 3 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง 5 รายการที่ยังตรวจยึดคืนมาได้

จากการสอบสวน นายธนภัทร ให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปลักทรัพย์ในห้องเก็บพระจริง โดยนำของกลางบางส่วนไปเก็บไว้ที่หอพักในซอยนวมินทร์ 74 ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นและยึดของกลางที่เหลือคืนมาได้ ส่วนทรัพย์สินที่ลักไปก่อนหน้านี้ได้นำไปขายเพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์และทรัพย์สินอื่น ๆ

ผู้ต้องหายอมรับว่าได้เริ่มก่อเหตุตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นมา โดยให้การว่าทำไปแล้ว 7 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้อาจก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50-60 ครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้ที่นำพระเครื่องไปเก็บไว้ในห้องดังกล่าวตั้งแต่แรกและมีกุญแจห้องอยู่กับตัวตลอด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธนภัทร พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อติดตามทรัพย์สินที่ยังหายไปกลับคืนมา