กรุงเทพฯ – นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยถึงความสำเร็จในวันแรกของการจัดงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 เมษายน 2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 และพาร์ค พารากอน ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยความร่วมมือของ วธ. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ของรัฐบาล ผ่าน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาศักยภาพคนไทย สร้างงาน สร้างรายได้ในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และส่งเสริม Soft Power ของประเทศให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล รวมถึงขยายโอกาสทางการตลาดและส่งเสริมการเจรจาธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับผลการดำเนินงานในวันแรก (18 เมษายน 2568) ได้รับรายงานว่า มีผู้ซื้อ (Buyer) ทั้งสิ้น 18 ราย จาก 7 บริษัท เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และเข้าร่วมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) มากถึง 70 คู่ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างยิ่ง และคาดการณ์ว่าผลการเจรจาในวันแรกนี้จะสามารถสร้างมูลค่าซื้อขายในอนาคตได้อย่างมหาศาล

“เรามุ่งมั่นให้งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อโดยตรง เพื่อสร้างคู่ค้าและเครือข่ายทางธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่นำผลงานสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาจัดแสดง ซึ่งมีจำนวนถึง 200 บูท เพื่อเป็นช่องทางและโอกาสในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายประสพ กล่าว

นอกจากกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมโคชชิ่งและการเจรจาธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดการจัดงาน (18 – 22 เมษายน 2568) โดยมีผู้ซื้อ (Buyer) จำนวน 26 บริษัท ผู้แทน 53 ราย ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจใน 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ด้านอาหาร ศิลปะ การท่องเที่ยว และดนตรี โดยกลุ่มผู้ซื้อมีความหลากหลาย ทั้งกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และจัดเลี้ยง), ห้างสรรพสินค้า, โมเดิร์นเทรด, ผู้จัดจำหน่ายออนไลน์, บริษัทผู้แทนจำหน่าย และบริษัทนำเที่ยว

ภาคเอกชนแสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ชุมชนและผลงานสร้างสรรค์ของไทยเป็นอย่างมาก เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางทั้ง offline และ online เชื่อว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานจะเกิดการเจรจาธุรกิจรวมกันไม่น้อยกว่า 200 คู่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนและเปิดโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

งานมหกรรมฯ ครั้งนี้ต่อยอดมาจากโครงการฝึกอบรม Upskill และ Reskill ด้าน Soft Power ใน 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มีผู้เข้าร่วมถึง 2,400 คน จาก 5 ภูมิภาค โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีผลงานโดดเด่น 200 ราย/ผลงาน มานำเสนอในงานนี้ เพื่อพัฒนาต่อยอดและสร้างเศรษฐกิจจากทุนทางวัฒนธรรม

วธ. จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ Soft Power ไทย โดยเข้าชมงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ชมการแสดงผลงานสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

• หมวดอาหาร: น้ำผึ้งชันโรง ตราบ้านเกาะแลหนัง จ.สงขลา, สมใจศิลปะกินได้ (คุกกี้ไอซ์ซิ่งโฮมเมดวาดลายจิตรกรรม) จ.จันทบุรี
• หมวดศิลปะ: แบรนด์ปลากัดสัตว์น้ำประจำชาติไทย (ภาพถ่ายเทคนิคสูง) จ.สมุทรปราการ, ม่อฮ่อมแพร่ (งานศิลปะตกแต่งบ้านจากผ้าย้อมห้อมและเศษผ้า) จ.แพร่, ผลิตภัณฑ์จากลูกปัดลวดลายชุดโนรา (ศิลป์สร้างสรรค์) จ.กระบี่, นพดลแกลอลี่ (สเก็ตบอร์ดลายไทยล้านนา) จ.เชียงใหม่
• หมวดท่องเที่ยว: อิสิปันน์ นนทบุรี (ลูกประคบเซรามิก) จ.นนทบุรี, เมธัส อินเตอร์เนชั่นแนล (การอาบเอ็นไซม์รำข้าว/ปุ๋ยรำข้าว) จ.นครราชสีมา
• หมวดดนตรี: เสน่ห์น่ายลมนต์เมืองยะลา (การแสดงผสมผสานมโนราห์-รองเง็ง) โรงเรียนบ้านตลาดลำใหม่ จ.ยะลา

งานนี้เปิดให้เข้าชมและเจรจาธุรกิจต่อเนื่องจนถึงวันที่ 22 เมษายน 2568 ณ พารากอน ฮอลล์ และพาร์ค พารากอน สยามพารากอน ขอเชิญทุกท่านมาสนับสนุน Soft Power และผลิตภัณฑ์ไทยให้ก้าวไกลสู่สากลไปด้วยกัน