พม. จัดงานวันผู้สูงอายุ-ครอบครัว 2568 ชู ‘คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว’ รับสังคมสูงอายุสมบูรณ์
กรุงเทพฯ – นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว. พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว” ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา โดยภายในงานได้มีการเผยแพร่สารจากนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันผู้สูงอายุแห่งชาติ (13 เมษายน) และวันครอบครัว (14 เมษายน) ประจำปี 2568
กิจกรรมสำคัญในงาน ประกอบด้วย การถวายรางวัล ผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2568 แด่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เพื่อยกย่องในฐานะสมเด็จพระราชาคณะผู้มีวัตรปฏิบัติอันน่ายกย่องและบำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อสังคมและพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล ครอบครัว หน่วยงาน องค์กร และสื่อมวลชนดีเด่น ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุและครอบครัว รวมถึงการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ครอบครัวร่มเย็น ให้แก่ คุณแม่มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) และครอบครัว ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของครอบครัวที่อบอุ่นและเข้มแข็ง
นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว โดยชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยที่ได้ก้าวเข้าสู่ สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ แล้ว โดยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 20.97 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางประชากรนี้ส่งผลให้โครงสร้างครอบครัวไทยเปลี่ยนไปจากเดิม มีแนวโน้มเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ครอบครัวที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และที่สำคัญคือ ครอบครัวข้ามรุ่น ที่ผู้สูงอายุต้องดูแลหลานตามลำพัง
รมว. พม. ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยและความเปราะบางของสัมพันธภาพภายในครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งของครอบครัวในภาพรวม อีกทั้งการเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ยังส่งผลกระทบในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น ผู้สูงอายุจึงควรมีบทบาทที่เหมาะสมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม รัฐบาลจึงได้เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในทุกมิติภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงของโลก
การจัดงานในครั้งนี้ โดยกระทรวง พม. ร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) มีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงและให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุในฐานะผู้สร้างสรรค์ สั่งสม และพัฒนาสิ่งดีงามในสังคม ผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ ภูมิปัญญา และคุณค่าที่คนรุ่นหลังควรยึดถือและสืบทอด อีกทั้งยังเป็นการยกย่องบทบาทของผู้สูงอายุในฐานะเสาหลักและศูนย์กลางทางจิตใจที่ช่วยสานสายใยและสร้างพลังให้สมาชิกในครอบครัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นายวราวุธ เสริมว่า ในสถานการณ์สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์นี้ ผู้สูงอายุไม่ได้เป็นเพียงผู้รับการดูแล แต่ยังเป็นกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาสังคมและประเทศไทยในอนาคต การจัดงานจึงเป็นการรณรงค์ให้สังคมทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่า ศักดิ์ศรี และความสำคัญของผู้สูงอายุ รวมถึงสถาบันครอบครัวซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศและจุดเริ่มต้นของคนทุกช่วงวัย ความเข้มแข็งของครอบครัวเปรียบเสมือนเกราะป้องกันปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
สำหรับ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) ผู้ได้รับรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2568 ปัจจุบันสิริอายุย่าง 78 ปี พรรษา 57 ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค และที่ปรึกษาแม่กองธรรมสนามหลวง ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์มากมาย ทั้งการบูรณะเสนาสนะต่างๆ ของวัดเทพศิรินทราวาส ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็น “วัดส่งเสริมสุขภาพ” รวมถึงการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ เช่น การร่วมก่อตั้งวัดพุทธดัลลัส สหรัฐอเมริกา