นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนทางการเมืองหลายเรื่อง โดยเฉพาะกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และความคืบหน้าของนโยบายสำคัญของรัฐบาล

นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2569 หลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณเสร็จสิ้น ว่าตนได้รับทราบข่าวนี้จากสื่อมวลชนเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเองนั้น ยังไม่มีการเคลื่อนไหวหรือหารือกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องการปรับ ครม. เนื่องจากทุกคนเข้าใจตรงกันว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล ซึ่งพรรคพร้อมให้การสนับสนุนการตัดสินใจทุกประการ

สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเปิดดีลเพื่อขอแลกเปลี่ยนกระทรวงกับพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เพื่อหวังความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น นายวิสุทธิ์ยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้จริงเท็จเพียงใด และไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากปากนายกรัฐมนตรี หรือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีกทั้งส่วนตัวมองว่า กระทรวงมหาดไทยในปัจจุบันยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องนำกลับมาดูแลเอง

อย่างไรก็ตาม นายวิสุทธิ์ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของทีมเศรษฐกิจ เนื่องจากได้รับเสียงสะท้อนจาก สส. หลายคนแสดงความห่วงใยต่อปัญหาเศรษฐกิจ และอยากให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายและสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ สส. ต่างเป็นห่วงพี่น้องประชาชน แต่สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

เมื่อถูกถามถึงความคืบหน้าของนโยบายเรือธงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือนโยบายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่หลายฝ่ายมองว่ายังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้า หรือถูกต่อต้านอย่างหนักนั้น นายวิสุทธิ์ชี้แจงว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม. และขณะนี้ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น หลังจากที่ สส. ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจในรายละเอียด

นายวิสุทธิ์กล่าวอย่างมั่นใจว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วยตนเอง พบว่ากระแสตอบรับเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้คัดค้านนโยบายนี้ เพียงแต่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม และเข้าใจถึงความจำเป็นในการหาเงินเข้าประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติ

สำหรับแผนการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในการประชุมสภาฯ สมัยหน้านั้น นายวิสุทธิ์ระบุว่า ต้องรอดูผลการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังเร่งดำเนินการอยู่ และจากการที่ได้ยินมากับหู ประชาชนไม่ได้คัดค้าน จึงไม่ต้องกังวลในประเด็นนี้มากนัก