ตำรวจทางหลวงอุบลฯ สกัดจับขบวนการขนมอเตอร์ไซค์ข้ามชาติ รวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง 9 คัน คาดเป็นรถจำนำ-ขาดผ่อน

อุบลราชธานี – เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผกก.6 บก.ทล.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 6 (สวญ.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล.) และ พ.ต.ต.สมโภชน์ บุญชะยา สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 6 (สว.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ ร่วมกันปฏิบัติการสกัดกั้นและจับกุมขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน

ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นบนทางหลวงหมายเลข 2050 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 23-24 ในพื้นที่อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังเฝ้าระวังเส้นทาง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นช่องทางธรรมชาติที่ขบวนการดังกล่าวใช้ในการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายและรถจักรยานยนต์ข้ามแดน ได้พบรถกระบะตู้ทึบสีขาวต้องสงสัย ขับผ่านมาบนทางหลวงหมายเลข 226 ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2050 ด้วยท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามและส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ

เมื่อสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวได้บริเวณ ทล.2050 กม.23-24 ตำบลเหล่าเสือโก้ก อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี พบชายคนขับทราบชื่อภายหลังคือ นายสุวิทย์ อายุ 35 ปี และหญิงที่นั่งมาด้วยทราบชื่อคือ น.ส.รุ่งทิวา อายุ 36 ปี จากการตรวจสอบภายในตู้ทึบด้านหลังรถ พบรถจักรยานยนต์หลายคันจอดเรียงกันอยู่ รวมทั้งหมด 9 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นรถที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ผู้ต้องหาทั้งสองคนอ้างในเบื้องต้นว่า มีเจ้าของรถจ้างให้ขับรถกระบะคันนี้ไปส่งลูกค้า แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารใดๆ เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ทั้ง 9 คันได้ ประกอบกับมีลักษณะท่าทางลุกลี้ลุกลน และให้การวกวนไม่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งมั่นใจว่ารถจักรยานยนต์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าของรถจักรยานยนต์ตามข้อมูลทะเบียนรถที่ตรวจยึดได้ และได้รับทราบข้อมูลที่น่าตกใจว่า รถจักรยานยนต์ทั้งหมดเป็นรถที่เจ้าของเดิมได้ทำการขายให้กับผู้เช่าซื้อไปแล้ว และผู้เช่าซื้อได้ขาดการผ่อนชำระค่างวดมาเป็นระยะเวลานานหลายเดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถเหล่านี้ถูกนำไปจำนำไว้กับกลุ่มนายทุนผิดกฎหมาย และกำลังจะถูกส่งต่อไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

สิ่งที่ตอกย้ำความผิดปกติคือ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจค้นและสอบสวน ผู้ว่าจ้างของนายสุวิทย์และน.ส.รุ่งทิวา ได้ติดต่อมาหาผู้ต้องหา และพยายามเจรจาเสนอเงินสินบนจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาและรถจักรยานยนต์ของกลางทั้งหมด ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมนายสุวิทย์และน.ส.รุ่งทิวา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทันที

จากการสอบสวนอย่างละเอียด น.ส.รุ่งทิวา ได้ให้การรับสารภาพในเวลาต่อมาว่า ตนและนายสุวิทย์ได้รับงานมาจากหญิงคนหนึ่งชื่อ น.ส.มิ้น ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ในการสั่งการ โดยได้รับคำสั่งให้ขับรถกระบะตู้ทึบไปขนรถจักรยานยนต์ทั้งหมดมาจากลานจอดรถบริเวณตลาดไท จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปส่งที่ปลายทางในพื้นที่อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ใกล้กับแนวชายแดน จากนั้นจะมีบุคคลอื่นมารับช่วงต่อเพื่อขนรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

น.ส.รุ่งทิวา ยังให้การเพิ่มเติมว่า ตนและนายสุวิทย์เคยทำลักษณะนี้มาแล้วถึง 5 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 9,000 บาท สำหรับการขนส่งแต่ละเที่ยว แสดงให้เห็นว่าเป็นขบวนการที่มีการทำมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายสุวิทย์และน.ส.รุ่งทิวา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 9 คัน และรถกระบะตู้ทึบ ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเหล่าเสือโก้ก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งเตรียมขยายผลการจับกุมเพื่อติดตามตัว น.ส.มิ้น ซึ่งเป็นผู้บงการใหญ่ และกลุ่มนายทุนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *