สุดยอด! แม็กซิมัส โจนส์ ทะลุชิง ATP Challenger ครั้งแรกในชีวิต หลังหวดมาราธอนปราบนักหวดฝรั่งเศส
แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ นักหวดลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันระดับ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ทัวร์ ได้เป็นครั้งแรก หลังโชว์ฟอร์มแกร่งเอาชนะคู่ต่อสู้จากฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ ณ สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ เตรียมดวลกับอดีตมือ 50 ของโลกในนัดชิงฯ
การแข่งขันเทนนิสอาชีพชาย เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ทัวร์ 50 รายการ “โกตดิวัวร์ โอเพ่น 1” ชิงเงินรางวัลรวม 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งจัดขึ้นที่สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ได้เดินทางมาถึงรอบสำคัญ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ได้มีการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การลงสนามของ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ นักเทนนิสลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 20 ปี มืออันดับ 618 ของโลก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมาตั้งแต่รอบคัดเลือกจนผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ แม็กซิมัสต้องออกแรงดวลกับ ฟลอร็องต์ บักซ์ นักเทนนิสชาวฝรั่งเศส มืออันดับ 460 ของโลก ซึ่งผ่านเข้ามาจากรอบคัดเลือกเช่นเดียวกัน
การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีและต้องสู้กันอย่างยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง แม็กซิมัส แม้จะพลาดท่าเสียเซตแรกในไทเบรกด้วยสกอร์ 6-7 ไทเบรก 5-7 แต่ก็กลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง เก็บชัยชนะในอีกสองเซตที่เหลือไปได้ด้วยสกอร์ 6-4 และ 6-4 ทำให้เอาชนะไปได้แบบสุดมัน 2-1 เซต ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
นี่ถือเป็นการเข้าชิงชนะเลิศในระดับ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ทัวร์ เป็นครั้งแรกในอาชีพของ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ โดยในรอบชิงชนะเลิศ เขาจะต้องพบกับงานหนัก เมื่อจะต้องดวลกับ ริคาร์ดาส เบรานคิส นักเทนนิสจอมเก๋าจากลิทัวเนีย มืออันดับ 297 ของโลก ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 5 ของรายการ
ริคาร์ดาส เบรานคิส เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมาได้หลังเอาชนะ ทิโบ โคลสัน จากเบลเยียม มืออันดับ 524 ของโลก ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 2-1 เซตเช่นกัน โดยใช้เวลาแข่งขันไป 2 ชั่วโมง 40 นาที ด้วยสกอร์ 7-6 ไทเบรก 7-4, 6-7 ไทเบรก 4-7 และ 6-4
สำหรับ ริคาร์ดาส เบรานคิส นั้น ไม่ใช่นักเทนนิสธรรมดา เขาเคยมีอันดับโลกสูงสุดถึงอันดับ 50 ของโลก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2016 ซึ่งถือเป็นประสบการณ์และคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งสำหรับ แม็กซิมัส ในรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะมาถึง
แฟนเทนนิสชาวไทยต้องร่วมส่งกำลังใจให้ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ทำผลงานให้ดีที่สุดในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพนักเทนนิสของเขา