สลด! ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง คลอกหมา-แมวตายเพียบ เจ้าของร่ำไห้พยายามช่วยชีวิต เผยปมไร้ไฟฟ้า-กองขยะล้อมบ้าน
พระนครศรีอยุธยา – เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านปูนชั้นเดียวใน อ.วังน้อย วอดทั้งหลัง ไฟคลอกสุนัขและแมวเสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าของบ้านพยายามฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปช่วยสัตว์เลี้ยงจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เผยชีวิตลำเค็ญ บ้านถูกยึดต้องอาศัยอยู่ชั่วคราว ไม่มีไฟฟ้าใช้มานาน แถมรอบบ้านเต็มไปด้วยกองขยะ ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว คาดเป็นสาเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ตำรวจเร่งประสานพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
เมื่อเวลา 22.31 น. ของวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ภูริวัจน์ ปานศรีแก้ง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองลำตาเสา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดวังน้อย เข้าสนับสนุนการดับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ตัวบ้านถูกเปลวเพลิงกลืนกินอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง และจากการสังเกตโดยรอบบ้าน พบว่ามีกองขยะจำนวนมากสะสมอยู่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิง ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ไว้ได้ แต่ตัวบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด
ภายหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายภายในบ้าน พบว่ามีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากถูกไฟคลอกและสำลักควันเสียชีวิตอย่างน่าเวทนา เป็นแมวจำนวน 3 ตัว และสุนัขอีกหลายตัว ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเหลือแมวที่รอดชีวิตออกมาได้ประมาณ 10 ตัว ซึ่งอยู่ในสภาพตกใจและอ่อนแรง
ระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ นายธนพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะวิ่งฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปภายในบ้านเพื่อช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงของตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันควบคุมตัวไว้ ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของเจ้าตัว โดยนายธนพลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีร่องรอยถูกไฟลวกบางส่วน สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถาม นายธนพล เจ้าของบ้าน ให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า บ้านหลังนี้เดิมเป็นของตนเอง แต่ได้ถูกยึดไปแล้ว และปัจจุบันได้ขออาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว ตนมีอาชีพเก็บขยะมาคัดแยกเพื่อนำไปขาย ทำให้รอบๆ บ้านมีขยะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญคือบ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้มาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้าไป ขณะเกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อของข้างนอก เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นแล้ว โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเก็บหลักฐานและร่องรอยต่างๆ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงในครั้งนี้ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.