สมุทรสาคร – เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อค่ำคืนวันที่ 19 เมษายน 2568 เมื่อชายวัย 42 ปี ถูกลุงช่างสักยันต์และพนักงานเก็บขยะวัย 57 ปี ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตคาที่บนถนนในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร หลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันรุนแรง เบื้องต้นผู้ก่อเหตุได้อาศัยจังหวะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2568 ร.ต.อ.สามารถ ติงหวัง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ หมู่ 9 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ นำโดย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สส.กก.ภ.จว.สมุทรสาคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นายจักรกฤษณ์ อายุ 42 ปี มีบ้านพักอยู่ใน ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร สภาพศพนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดแต่คาดว่าน่าจะเป็นปืนพกสั้น เข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด หน้าอกซ้าย 1 นัด และหน้าอกขวาอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 3 นัด ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป

จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นนายจักรกฤษณ์ ผู้ตาย เดินผ่านหน้าเพิงพักที่นายสังข์ อายุประมาณ 57 ปี ได้ปลูกสร้างไว้ชั่วคราวอยู่ริมถนน จากนั้นทั้งสองคนได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง แต่พยานไม่สามารถได้ยินถนัดว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร หลังจากนั้นนายจักรกฤษณ์ได้เดินนำของเข้าไปเก็บในห้องพักซึ่งอยู่ในซอยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ก่อนที่จะเดินกลับออกมายืนอยู่ที่บริเวณปากซอยดังกล่าว

ไม่นานหลังจากที่นายจักรกฤษณ์กลับมายืนที่ปากซอย พยานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกัน 3 นัด ด้วยความตกใจ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจึงได้พากันออกมาดู และพบว่านายจักรกฤษณ์นอนแน่นิ่งเสียชีวิตอยู่บนพื้นแล้ว ส่วนนายสังข์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งพยานยืนยันว่าเป็นพนักงานเก็บขยะ และมีอาชีพเสริมเป็นช่างสักยันต์ ได้มีชายอีกคนขี่รถจักรยานยนต์มารับตัวพาหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพของนายจักรกฤษณ์ส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมทั้งระดมกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อเร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายสังข์ ผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้โดยเร็วที่สุด และคลี่คลายปมสาเหตุของการสังหารโหดในครั้งนี้ต่อไป