DSI รวบผู้บริหาร China Railway เอี่ยวคดีอาคารถล่ม สตง. ออกหมายจับอีก 3 หุ้นส่วนไทย
กรุงเทพฯ – กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าจับกุมผู้เกี่ยวข้องรายแรกในคดีอาคารถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ความสูง 33 ชั้น ในกรุงเทพฯ โดยผู้ที่ถูกจับกุมคือ นายจาง ชวนหลิง หนึ่งในกรรมการของบริษัท China Railway No. 10 (Thailand) จำกัด การจับกุมมีขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าจับกุมนายจาง ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในย่านรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ระหว่างการสอบปากคำที่กองบัญชาการดีเอสไอ นายจางได้ขอให้มีล่ามแปลภาษาและทนายความเข้าร่วม
การสอบสวนคดีนี้ดำเนินการโดยดีเอสไอ ภายใต้การนำของ พันตำรวจโท ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน หลังเหตุการณ์อาคารถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา อาคาร สตง. ดังกล่าวเป็นอาคารแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่เกิดการถล่มลงมาภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา
การสอบสวนของดีเอสไอมุ่งเน้นไปที่ข้อกล่าวหาว่า บริษัท China Railway มีการดำเนินงานในประเทศไทยโดยใช้บุคคลอื่นถือหุ้นแทน (นอมินี) และได้ร่วมกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งกิจการร่วมค้าเพื่อเข้าทำสัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยาน และเข้าตรวจค้นสถานที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท คาร์ ฮับ จำกัด, กิจการร่วมค้า พีเคดับเบิ้ลยู, บริษัท ว. แอนด์ คอลลีคส์ คอนซัลแทนต์ จำกัด และบริษัท พีเอ็น ซิงโครไนซ์ จำกัด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้อายัดตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 24 ตู้ ซึ่งจัดเก็บอยู่ใต้โครงสร้างลานจอดรถของอาคารที่ถล่ม ตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้รายงานว่าบรรจุเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในพื้นที่ก่อสร้างของกิจการร่วมค้า ITD-CREC และกิจการร่วมค้า พีเคดับเบิ้ลยู
จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับนายจาง และผู้ถือหุ้นคนไทยอีก 3 คน ได้แก่ นายมานัส ศรีอนันต์, นายประจวบ ศิริเขต และนายโสภณ มีชัย
ตามรายงานการสอบสวน นายจางมีชื่อเป็นกรรมการของบริษัท China Railway No. 10 ซึ่งจดทะเบียนตั้งอยู่ที่ 493 ซอยพุทธบูชา สาขา 11 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ แสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นไทยมีสัดส่วน 51% โดยนายโสภณถือ 40.7997%, นายประจวบถือ 10.2%, และนายมานัสถือ 0.0003% ส่วนอีก 49% ที่เหลือถือโดยบุคคลสัญชาติจีนเพียงคนเดียว คือ นายจาง
ขณะนี้ทางการยังคงเร่งดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เหลือเพื่อนำตัวมาสอบปากคำดำเนินคดีต่อไป