กรุงเทพฯ – ความเคลื่อนไหวในวงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการครั้งสำคัญ เมื่อมีรายงานว่าสถานบริการชื่อดังในตำนานอย่าง “ยูโทเปีย” ย่านพระราม 9 ได้ประกาศขายกิจการทั้งหมดในราคาที่สูงถึงพันล้านบาท ขณะที่ “โพไซดอน” อีกหนึ่งสถานบริการขนาดใหญ่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาขอปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากอาบอบนวดเป็นโรงแรม สัญญาณเหล่านี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจประเภทนี้

“ยูโทเปีย” อาบอบนวดที่หลายคนคุ้นเคย ยืนหยัดให้บริการมาอย่างยาวนานในทำเลย่านพระราม 9 ล่าสุดพบการติดป้ายประกาศขายกิจการอย่างเป็นทางการ จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับนายหน้าที่รับผิดชอบการขาย ระบุว่า การขายครั้งนี้เป็นการเสนอขายทั้งกิจการ พร้อมที่ดินทั้งหมด โดยตั้งราคาไว้ที่กว่า 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งข่าวเผยว่า สถานบริการแห่งนี้ได้ปิดให้บริการลงตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้มีการประกาศขายมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว

ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอีกแห่งคือ “โพไซดอน” สถานบริการชื่อดังบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาเช่ากว่า 100 สัญญาในพื้นที่ริมถนนรัชดาฯ แปลงที่ดินของโพไซดอนมีเนื้อที่ประมาณ 15.4 ไร่ ทางบริษัทผู้เช่าได้ยื่นหนังสือต่อ รฟท. เมื่อปี 2559 เพื่อขอต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 30 ปี

พร้อมกันนี้ ยังได้ยื่นแผนการขอดัดแปลงอาคารปัจจุบัน ซึ่งเป็นอาคารสูง 11 ชั้น และเคยประกอบธุรกิจอาบอบนวด ให้กลายเป็นธุรกิจ โรงแรมระดับ 3 ดาว แทน โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจอาบอบนวดเข้าสู่ช่วงขาลง ประกอบกับมีภาระต้นทุนในการดำเนินงานที่สูงขึ้น ซึ่งแผนการปรับเปลี่ยนนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนราว 200 ล้านบาท

สถานการณ์ของทั้งยูโทเปียและโพไซดอน ถือเป็นตัวชี้วัดที่น่าสนใจถึงแนวโน้มของธุรกิจสถานบริการประเภทนี้ ที่อาจกำลังเผชิญกับความท้าทายและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การประกาศขายในราคาสูงและการขอดัดแปลงสู่ธุรกิจโรงแรม สะท้อนให้เห็นถึงการประเมินศักยภาพของสินทรัพย์ในทำเลทอง และทิศทางใหม่ๆ ของผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน