มหาเถรฯ – พม. – พศ. ลงนาม MOU ‘เสริมพลังวัด’ ดูแลกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ยกระดับสวัสดิการสังคมยั่งยืน

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 เกิดความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสถาบันหลักของชาติ ในการผนึกกำลังเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมังกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินงาน “โครงการเสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง”

พิธีลงนามฯ จัดขึ้น ณ พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เป็นผู้ร่วมลงนาม ซึ่งระหว่างพิธี พระสงฆ์จำนวน 9 รูปได้เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นสิริมงคล

วัตถุประสงค์หลักของโครงการ “เสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง” คือการส่งเสริม สนับสนุนความร่วมมือระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการขับเคลื่อนการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ตามแนวทางการขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญของกระทรวง พม. ด้านที่ 5 สร้างหุ้นส่วนทางสังคมสู่สวัสดิการที่ยั่งยืน

โครงการนี้มุ่งหวังให้กลุ่มเปราะบาง ซึ่งรวมถึงผู้ประสบปัญหาสังคม กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจมีปัญหาการเข้าไม่ถึงสิทธิ สวัสดิการ ความรู้ด้านบริการของรัฐ ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือปัญหาด้านรายได้และความเป็นอยู่ สามารถผ่านพ้นปัญหาได้ พึ่งพาตนเองได้ และสามารถช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดจนอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข โดยจะยกระดับการจัดสวัสดิการสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานที่ยั่งยืน

พระราชปัญญาวชิรากร (สมบัติ ญาณวโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ ในฐานะเลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรฯ กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะประสานการดำเนินงานระหว่างศูนย์ประสานงานสาธารณสงเคราะห์ประจำจังหวัด หรือวัดที่ได้รับมอบหมาย กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. และหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับแนวทางงานสาธารณสงเคราะห์

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมและสนับสนุนให้คณะสงฆ์ และโดยเฉพาะ พระนักพัฒนาสาธารณสงเคราะห์ เป็นกลไกหลักในการสื่อสาร อบรม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ชุมชนเกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม สร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชนของตนเองได้อย่างยั่งยืน

เลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรฯ ยังกล่าวเสริมว่า ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะมีการแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ เพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนิน “โครงการเสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง” ภายใต้แนวทางความร่วมมือด้านงานสาธารณสงเคราะห์ต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *