ปกรณ์วุฒิ ยัน ‘ปชน.’ โหวตคว่ำ ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้หากไม่ผ่าน นายกฯ ต้องลาออกหรือยุบสภา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 เม.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในวันพรุ่งนี้ (9เม.ย.) ว่า พรรคประชาชนจะไม่เห็นชอบกับร่างดังกล่าว

เหตุผลหนึ่งคือความเร่งรีบจนผิดปกติ ไม่ทราบว่าจะรีบไปทำไม หากกฎหมายผ่านได้กว่าจะสร้างเสร็จอย่างน้อยใช้เวลา 5-6 ปี เหตุใดจึงไม่รอให้เนื้อหารอบคอบกว่านี้ รัฐบาลเองพูดกลับไปกลับมาตลอดไร้ความชัดเจน ทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ว่าตกลงจะเน้นบริการชาวไทยหรือชาวต่างชาติ รวมถึงเรื่องใบอนุญาตที่จะมีความโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ หากให้อำนาจกับคณะกรรมการนโยบาย

“ในตอนหาเสียงอดีตพรรคก้าวไกล 1 ใน 300 นโยบาย ก็มีเรื่องนี้อยู่ด้วย แต่สิ่งที่เรานำเสนออยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เราจำเป็นต้องศึกษาอย่างรอบคอบ ผมเคยอภิปรายเรื่องนี้ไป 2 ครั้ง และแน่นอนว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายนี้ ผมจึงไม่ได้คัดค้าน แต่หากจะทำจริงๆ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือ ศึกษาผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องหลักคือเรื่องการป้องกันการฟอกเงิน และเราต้องศึกษาอย่างแน่ชัดว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจจะเป็นไปได้จริงหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าหากร่างกฎหมายดังกล่าวถูกตีตกไป จะมีผลทางการเมืองอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า โดยธรรมเนียมหากร่างถูกส่งมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และไม่ผ่านในสภาฯ นายกรัฐมนตรีต้องลาออกหรือไม่ก็ยุบสภาฯ เพราะหมายความว่าไม่สามารถควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้แล้ว

เมื่อถามกรณีกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขู่จะขับพรรคร่วมออกจากรัฐบาล หากไม่โหวตเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าแหล่งข่าวคือใคร จึงไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ ให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนอธิบายดีกว่า

เมื่อถามว่าเสียงของพรรคฝ่ายค้านยังมีหวังหรือไม่ ในการคว่ำร่างนี้หรือไม่ เพราะพรรคประชาชาติ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็ไม่เห็นด้วยกับร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็รอดูกันว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลใดบ้าง ตนได้ยินมาว่าบางพรรคก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ทราบว่ามีการต่อรองอะไรกันหรือไม่ในการลงมติ ต้องพูดตามตรงว่าเสียงของพรรคฝ่ายค้านห่างกับเสียงของพรรครัฐบาลอยู่พอสมควร

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการชุมนุมกดดันว่าไม่เอาร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลควรกลับไปคิดว่าเราจำเป็นต้องเร่งรีบผ่านกฎหมายในวาระ 1 ในวันพรุ่งนี้จริงๆ หรือไม่ และตนคงตัดสินไม่ได้ว่าเสียงเหล่านั้นคือเสียงส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่รัฐบาลจะรับฟังเสียงข้างน้อยที่เขาออกมาเรียกร้องมากแค่ไหน และกลับไปพิจารณาและอธิบายให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยเข้าใจถึงเหตุผลในการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หากทำได้กระแสต่อต้านก็จะน้อยลง

แต่แทนที่จะทำแบบนั้นกลับใช้เสียงข้างมากเร่งรีบที่จะใช้เสียงข้างมากในสภาฯ กลบเสียงข้างนอก ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ได้ผล บางครั้งทำให้เสียงข้างนอกดังขึ้นด้วยซ้ำ ย้ำว่าอยากให้รัฐบาลรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต่อต้านอย่างรุนแรงจากสังคม

“การชุมนุมเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมทางรัฐธรรมนูญ พบการชุมนุมที่ปราศจากความรุนแรงและอาวุธ เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมและสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะนำพาไปสู่อะไรรัฐบาลต้องคิดก่อนว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องและต่อต้านมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ผมไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย ควรต้องรับฟังเหตุผลจากทุกกลุ่ม ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย” นายปกรณ์วุฒิ

ส่วนที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองฯ และอดีตรมว.คลัง ออกมาระบุว่ามีส่วนหนึ่งต้องการปกป้องบ่อนใต้ดิน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ตนว่ามีตรรกะวิบัติ 101 ให้ท่านไปอ่านว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นตรรกะหรือไม่”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *