พนมเปญ, กัมพูชา (AP) — ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน เดินทางถึงกัมพูชาเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน ในโอกาสนี้จะช่วยเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอยู่แล้วระหว่างจีนกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของสี จิ้นผิง นับตั้งแต่ปี 2016 และเป็นการปิดท้ายการเดินทางเยือน 3 ประเทศ ซึ่งรวมถึงเวียดนามและมาเลเซีย จีนได้เพิ่มอิทธิพลในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผ่านการใช้ประโยชน์จากอำนาจทางเศรษฐกิจที่มีอยู่

สมเด็จพระเจ้านโรดม สีหมุนี ทรงต้อนรับสี จิ้นผิง ที่สนามบินในกรุงพนมเปญ ก่อนที่จะพระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้า ต่อมาประธานาธิบดีจีนยังได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต และประธานวุฒิสภา ฮุน เซน ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและบิดาของฮุน มาแนต

สี จิ้นผิง กล่าวในแถลงการณ์ที่สนามบินหลังเดินทางมาถึงว่า “กัมพูชาเป็นความสำคัญในนโยบายต่างประเทศของจีน” และ “จีนจะสนับสนุนกัมพูชาอย่างไม่ลดละในการรักษาเอกราชเชิงกลยุทธ์และเดินบนเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะกับสภาพของประเทศ”

การค้าน่าจะเป็นหัวข้อหลักในการหารือระหว่างผู้นำทั้งสอง เนื่องจากกัมพูชากำลังเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าที่สูงจากสหรัฐฯ นอกเหนือจากภาษี 10% ที่ประกาศโดยทรัมป์แล้ว ยังอาจถูกเก็บภาษีส่งออกสูงถึง 49% เมื่อพ้นช่วงหยุดพัก 90 วัน

ในการเยือนเวียดนามและมาเลเซียก่อนหน้านี้ สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ

ฮุน มาแนต ระบุผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือ 37 ฉบับ ครอบคลุมการลงทุน การค้า การศึกษา การเงิน และอื่นๆ

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการยึดอำนาจโดยเขมรแดง ซึ่งจีนเคยสนับสนุนในอดีต แต่ประวัติศาสตร์ส่วนนี้ไม่ค่อยถูกกล่าวถึงในการเจรจาระหว่างสองประเทศในปัจจุบัน

จีนเป็นคู่ค้าสำคัญที่สุดของกัมพูชา มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศสูงกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 และจีนยังคงเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในกัมพูชาต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จีนยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินในการขยายฐานทัพเรือเรียม ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจกลายเป็นฐานทัพเรือจีนในอ่าวไทย แต่กัมพูชายืนยันว่าไม่มีการอนุญาตให้ตั้งฐานทัพต่างชาติใดๆ