บุตรนักการเมืองขับบีเอ็มดับเบิลยูประมาทชนรถกระบะ สร้างความไม่พอใจในสังคม
กรุงเทพฯ — บุตรชายของนักการเมืองท้องถิ่นตกเป็นเป้าความสนใจหลังจากขับรถบีเอ็มดับเบิลยูอย่างประมาทและชนรถกระบะจนเสียหลักพุ่งตกถนน บาดเจ็บสาหัส สร้างความไม่พอใจให้สังคมและถูกนำมาเปรียบเทียบกับคดีฮิตแอนด์รันของ “บอส” วรายุทธ์ ยูวะวณิช ทายาทเรดบูลล์ ที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศเมื่อปี 2555
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าคดีนี้จะไม่จบแบบเดียวกัน
เมื่อวันที่ 17 เมษายน พล.ต.ท. กิตติรัตน์ พันธ์เพชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคลิปไวรัลที่แสดงภาพรถบีเอ็มดับเบิลยูสีแดงขับกวัดแกว่งบนทางหลวงใกล้ทางออกรังสิต-นครนายก ในช่วงดึกของวันที่ 16 เมษายน ก่อนจะพุ่งชนรถกระบะจนเสียหลักตกถนน
ผู้ขับขี่รถกระบะอายุ 65 ปีได้รับบาดเจ็บซี่โครงหักและยังคงอยู่ในห้องไอซียู ส่วนผู้โดยสารหญิงอายุ 64 ปีบาดเจ็บเล็กน้อย
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้สังคมอย่างมากเมื่อทราบว่าผู้ขับขี่รถบีเอ็มดับเบิลยูเป็นผู้สมัครสภาท้องถิ่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่
พล.ต.ท. กิตติรัตน์ที่ได้ดูคลิปดังกล่าว กล่าวประณามพฤติกรรมของผู้ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูว่า “น่ารังเกียจ” และไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม
“ผมรู้สึกเศร้าที่ยังมีคนขับรถแบบนี้บนถนนของเรา ถ้ามีเด็กอยู่ในรถคันนั้นล่ะ? พฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรมีที่อยู่ในสังคม” เขากล่าว
เขาย้ำเตือนให้ประชาชนขับรถอย่างมีสติและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเน้นย้ำว่าการกระทำประมาทแบบนี้ไม่สามารถยอมรับได้และต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
“ผู้ก่อเหตุไม่เพียงแต่ทำผิดกฎหมาย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการขาดสำนึก โดยเฉพาะการอวดอ้างความสัมพันธ์กับนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่เพื่อแสดงอิทธิพล บุคคลนี้ไม่แสดงความเสียใจ ยังคงคุยโวและแสดงให้เห็นถึงความไม่มีความรับผิดชอบ สังคมกำลังจับตาดูว่าคดีนี้จะดำเนินไปอย่างไร เพราะจะเป็นบททดสอบความเที่ยงธรรมและความโปร่งใสของระบบยุติธรรมไทย” เขากล่าวเสริม
พ.ต.อ. กึกก้อง ดิสวาท ผู้กำกับการกองบังคับการตำรวจทางหลวงที่ 8 ระบุว่ากำลังรอให้ผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลและรายงานแพทย์พร้อมก่อนจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำ คาดว่าจะมีการแจ้งข้อหาบางส่วนในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ กฤษฎา ลีนาวรรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีและบิดาของผู้ขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวขณะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากฝีมือลูกชายที่โรงพยาบาลในพื้นที่รังสิตว่า “ไม่กังวล ลูกทำผิดและขอโทษแล้ว ไม่เข้าข้างลูก ไม่รู้ว่าลูกไปไหน ตอนนี้ยังไม่ได้เจอลูก” โดยพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด