เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2568 ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ตนจะหารือร่วมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงผลกระทบต่อภาคการเงินไทย หลังจากสหรัฐอเมริกาออกมาตรการภาษีตอบโต้ เบื้องต้นจะเป็นการรับฟังความเห็นกันและกัน และร่วมกันหามาตรการรองรับ

นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดเงินของไทยนั้น ถือว่าค่อนข้างนิ่ง เพราะมีลักษณะไม่เหมือนประเทศอื่น คือไม่มีเงินกองทุน แต่ไทยเราเอาเงินรวม มีศูนย์กลางการบริหารที่ธปท. ส่วนวิธีการบริหารก็ไม่หวือหวา ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็ยังไม่ได้ขายดอลลาร์ออกไป แปลว่ายังคงมีความเชื่อมั่นต่อสหรัฐ

นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนการจะต้องให้ธปท.พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปลายเดือนนี้ หรือไม่ เป็นเรื่องที่ยังไม่พิจารณา เพราะสถานการณ์ในตอนนี้เรายังอ่านไม่ออก ประเทศใหญ่ๆ ก็ยังชุลมุนกันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่การแทรกแซงค่าเงินนั้น เรื่องนี้เขาไม่ทำกัน ต้องปล่อยไปตามกลไก

“ส่วนจะให้ธปท.เอาเงินสำรองออกมาใช้หรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ในความคิด เพราะเงินสำรองที่มีนั้น เป็นตัวที่ แบ็กอัพสภาพคล่องการนำเข้าและส่งออก เวลารัฐบาลจะทำอะไร เราจะทำผ่านการเพิ่มงบประมาณมากกว่า” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หลังจากสหรัฐออกมาตรการตอบโต้ ทำให้การปล่อยสินเชื่อไม่เข้มข้นเท่าที่ควร เพราะทุกฝ่ายก็หยุดดูว่า จะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าไหม เหมือนนาฬิกาหยุดเดิน เครื่องเดินไม่เต็มสูบ หลายๆ อย่างมีปัญหาเหมือนหยุดชั่วคราว ก็ต้องมอนิเตอร์กันต่อ