สหรัฐอเมริกายืดระยะเวลาบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าไทยออกไปอีก 90 วัน จากเดิมวันที่ 9 เมษายนนี้ ส่งผลให้ไทยมีเวลาเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเจรจาอัตราภาษีร้อยละ 36 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดไว้

แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า ไทยทราบล่วงหน้าถึงแนวโน้มถูกขึ้นภาษี เนื่องจากอยู่ในกลุ่มประเทศได้ดุลการค้าจากสหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงานรับมือสถานการณ์นี้ตั้งแต่ก่อนประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

“เราใช้วิธีศึกษาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มุ่งเจรจาแทนการตอบโต้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ” แหล่งข่าวระบุ

ล่าสุด นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายนายกฯ ได้เรียกประชุมทีมไทยแลนด์ที่บ้านพิษณุโลก เพื่อสรุปประเด็นก่อนเดินทางเจรจาระหว่างวันที่ 19-25 เมษายนนี้

ทั้งนี้ คณะทำงานได้จัดทำยุทธศาสตร์เจรจา 5 แนวทางหลัก:

1. ส่งเสริมความร่วมมืออุตสาหกรรมเกื้อหนุนกัน เปิดตลาดสินค้าเกษตร
2. เพิ่มการนำเข้าสินค้าจำเป็นจากสหรัฐที่ไทยผลิตเองไม่ได้
3. คัดกรองสินค้าส่งออกป้องกันการสวมสิทธิ์
4. ส่งเสริมการลงทุนไทยในอุตสาหกรรมแปรรูปสหรัฐ
5. สร้างความโปร่งใสตามมาตรฐานสากล

ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ได้เดินทางล่วงหน้าไปนครซีแอตเทิลเพื่อพบปะภาคธุรกิจสหรัฐ ก่อนที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะเข้าร่วมเจรจาอย่างเป็นทางการที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 21 เมษายน

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเจรจาครั้งนี้มีความท้าทายสูง เนื่องจากไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐถึง 55,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 แต่ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน