นครราชสีมา – ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครราชสีมา กำลังเผชิญวิกฤตขยะล้นเมืองหลังกองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งห้ามนำขยะมาทิ้งในพื้นที่โซน C อย่างเด็ดขาด เนื่องจากปริมาณขยะสะสมเกิน 334,863 ตัน สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 2 แสนตัน ส่งผลให้ 34 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถทิ้งขยะได้รวมกว่า 450 ตันต่อวัน

พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจสอบและพบว่ามีการฝังกลบขยะไม่ทันจนต้องเทกองกลางแจ้ง ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นเหม็นและน้ำเสียกระทบชาวบ้านโดยรอบ กองทัพจึงมีคำสั่งห้ามนำขยะมาทิ้งตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา และให้ขนย้ายขยะออกตามข้อตกลง

ทางด้านนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยประสานงานกับกองทัพภาคที่ 2 เพื่ออนุญาตให้ใช้พื้นที่โซน B เป็นจุดพักขยะชั่วคราวไม่เกินวันละ 350 ตัน จนถึงวันที่ 21 เมษายนนี้ โดยหลังจากนั้นต้องขนย้ายขยะออกให้หมดภายในวันที่ 30 เมษายน

นายกัมปนาท บุตรโต รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่าทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการลดปริมาณขยะต้นทางด้วยมาตรการ 3R ล่าสุดสามารถลดปริมาณขยะลงเหลือเฉลี่ยวันละ 350 ตัน พร้อมเตรียมเปิดประมูลให้เอกชนรับซื้อขยะไปทำเชื้อเพลิง RDF โดยมีโรงปูนซีเมนต์ในสระบุรีและเอกชนในชัยภูมิให้ความสนใจ

นายจำลอง มหิงษาเดช ผู้ใหญ่บ้านหนองปลิงใหม่ ในฐานะผู้นำชุมชนใกล้บ่อขยะ เปิดเผยถึงผลกระทบรุนแรงที่ชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือนต้องเผชิญ ทั้งปัญหาน้ำเสีย กลิ่นเหม็น และโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเรียกร้องให้เทศบาลนครนครราชสีมาซึ่งได้รับค่ากำจัดขยะวันละหลายแสนบาทแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น