ภรรยาร้อง สามีตกรถไฟก่อนถูกเหยียบซ้ำดับ หลังจอดเทียบชานชลาหัวลำโพง เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 7 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนารี การะเกตุ อายุ 40 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังสามีเสียชีวิตถูกรถไฟคันที่ 6 ขบวนที่ 278 จากกบインทร์บุรีถึงกรุงเทพฯ เลขรถ บขส.1128 ทับ บริเวณชานชาลาที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา
นางนารีเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 เม.ย.2568 เวลาประมาณ 07.00 สามีคือนายกวินทร์ การะเกด อายุ 43 ปี พร้อมด้วยลูกสาว น.ส.กวินธิตา อายุ 17 ปี ได้โดยสารรถไฟ จากสถานีประจันตคาม เข้ามายังกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดพิษณุโลก โดยสามีของตนนั้นขาไม่ค่อยดี และสายตาก็มองเห็นไม่ค่อยชัดเจน
กระทั่งเวลา 10.20 น. ลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่าคุณพ่อเสียชีวิต โดนรถไฟทับ โดยน้องเล่าให้ฟังว่า เมื่อรถไฟถึงปลายทางหัวลำโพง น้องให้คุณพ่อยืนอยู่บนรถไฟก่อน ส่วนตัวน้องเองจะยกสัมภาระลงมาไว้ด้านล่าง เพราะคิดว่าเป็นสถานีสุดท้าย คงไม่คิดว่าจะมีรถไฟเข้าเคลื่อนตัวไปไหนแล้ว น้องก็เลยให้คุณพ่อยืนรออยู่ตรงที่ประตู ส่วนตัวเองก็ทำการโยกย้ายสัมภาระลงมาไว้ด้านล่าง
หลังจากนั้น พอหันไปหาคุณพ่ออีกที เหมือนรถไฟมันกระตุก เขยื้อนตัว ทำให้คุณพ่อเสียจังหวะ และเสียการทรงตัว หล่นลงมาถูกรถไฟทับ แต่ว่าน้องก็พยายามจะลงมาช่วยคุณพ่อ จริงๆแล้วเขาไม่ได้ประมาท แต่ข่าวลงไปว่าเขาประมาท เขาหล่นลงมาไม่ได้ยืนที่ชานชลา หากยืนที่ชานชาลาก็อาจจะเป็นการประมาทก็ได้ แต่นี่คนยังยืนอยู่บนรถไฟ
ตอนนี้ทางการรถไฟ ยังไม่ได้ตอบรับอะไร เนื่องจากช่วยเยียวยา แค่จำนวนเงิน 20,000 บาท และลูกสาวของตัวฉันเองก็แอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็อยู่ห้องไอซียู ทางด้านการรถไฟก็ยังไม่มี การเยียวยา นอกจากประกันของตั๋วรถไฟ วงเงินอยู่ที่ 60,000 บาท และเราก็ยังไม่ทราบว่าการรักษาครั้งนี้จะใช้เงินจำนวนเท่าไหร่
นอกจากนี้ เห็นทางเจ้าหน้าที่การรถไฟ แจ้งว่าทางคนขับรถไฟจะเข้ามาชี้แจง แต่วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามา แม้แต่คนเดียว นอกจากฝ่ายบริการของการรถไฟเท่านั้น ส่วนเรื่องพิธีทาง ผู้เสียชีวิตนั้น ทางการรถไฟก็ได้กล่าวว่าจะเป็นเจ้าภาพให้ 1 คืน โดยไม่รวมกับเงินค่าเยียวยาจำนวน 20,000 บาท
ส่วนเรื่องการเยียวยา ของทางด้านประกันก็อีกเรื่องนึง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเยียวยา และเงินฌาปนกิจ จริงๆแล้วก็อยากฝากเตือน เจ้าหน้าที่การรถไฟให้มีการดูแล และตรวจตราผู้โดยสารที่ยังคงค้างอยู่ในรถไฟทุกขบวน จะได้รู้ทั่วกัน และจะไม่เกิดอุบัติเหตุ
หลังจากนี้ ก็จะรอทางการรถไฟมาตกลงที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เพื่อที่จะดูแลเยียวยากรณี สามีของดิฉันว่าจะยังไงต่อไป และลูกสาวของฉันที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล จะช่วยเหลือเยียวยาค่ารักษายังไง รูปแบบไหนฝากไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ