เมียนมาต้องเร่งกำจัดเศษซากแผ่นดินไหว 2.5 ล้านตันหลังวิกฤตครั้งใหญ่
สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เผยข้อมูลน่าตกใจว่า เมียนมาต้องเร่งกำจัดเศษซากปรักหักพังจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 2.5 ล้านตัน หรือเทียบเท่ารถบรรทุก 125,000 คัน
นายติตัน มิตรา ผู้แทน UNDP ประจำเมียนมา เปิดเผยว่า “สถานการณ์ยังน่าวิตก โดยผู้ประสบภัยกว่า 60,000 คนยังไม่สามารถกลับบ้านได้ เนื่องจากทั้งความเสียหายของที่อยู่อาศัยและความกลัวต่ออาฟเตอร์ช็อก” พร้อมระบุว่ายังมีปัญหาด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างระบบน้ำประปาที่ใช้การไม่ได้
จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า มีสิ่งปลูกสร้างได้รับผลกระทบราว 1.6 ล้านหลังใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยในจำนวนนี้มากกว่า 10,000 หลังได้รับความเสียหายหนักหรือถูกทำลายย่อยยับ เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนระดับนี้
ที่น่ากังวลคือสถานพยาบาล 128 แห่งได้รับผลกระทบรุนแรง ทำให้ศักยภาพในการให้บริการลดลงอย่างมาก ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 3,600 ราย นับเป็นภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมียนมาช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา