เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 กลับมาพร้อมกับความสุขและการเฉลิมฉลอง แต่สิ่งที่ตามมาคือสถิติการเสียชีวิตบนท้องถนนที่สูงลิ่ว เฉลี่ยวันละ 40-50 ราย และผู้บาดเจ็บนับพัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับสงคราม

ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 264 ราย และบาดเจ็บ 2,008 ราย สาเหตุหลักมาจากเมาแล้วขับ 37% และขับเร็ว 25% โดยกลุ่มเสี่ยงสูงสุดคือผู้ขับขี่จักรยานยนต์และผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย

ช่วงเวลา 7 วันอันตรายของสงกรานต์มักมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 300-400 ราย หรือ 1 รายทุกครึ่งชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปกติ สาเหตุหลักมาจากการขับเร็วเกินกำหนด เมาแล้วขับ ขับตัดหน้ากระชั้นชิด หลับใน ไม่สวมหมวกนิรภัย สภาพถนนไม่ดี และปริมาณรถหนาแน่น

แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565-2570 เสนอให้ปฏิรูปกฎหมายความเร็วใหม่ โดยออกแบบถนนให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง และใช้เทคโนโลยีตรวจจับความเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับปี 2568 มีข้อเสนอ 5 มาตรการเด็ดขาด ได้แก่ 1. พ.ร.บ.สวมหมวกบังคับเด็ดขาด 2. ห้ามขายเหล้า 24 ชม.ในปั๊มและร้านสะดวกซื้อ 3. ด่านตรวจ 3 ชั้น 3 รอบต่อวัน 4. สายด่วนหยุดรถเสี่ยง 5. อาสาพิทักษ์หมู่บ้าน

คำถามสำคัญคือมาตรการเหล่านี้จะได้ผลจริงหรือไม่ เพราะทุกปีมีการประกาศเข้มงวด แต่สถิติอุบัติเหตุยังสูงอยู่ การแก้ปัญหาต้องอาศัยทั้งกฎหมายและจิตสำนึกของผู้ขับขี่