ผู้นำเอลซัลวาดอร์ปฏิเสธส่งตัวผู้อพยพกลับสหรัฐฯ หลังถูกเนรเทศผิดพลาด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีของประเทศเอลซัลวาดอร์เดินทางเยือนสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 14 เม.ย. 2568 และได้เข้าพบปะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งในระหว่างนั้นเขาได้พูดถึงนายคิลมาร์ อาเบรโก การ์เซีย ซึ่งถูกส่งตัวไปยังเอลซัลวาดอร์ด้วยความผิดพลาด

นายบูเคเลกล่าวว่า “ผมจะคืนตัวอาชญากรกลับสหรัฐฯ ได้อย่างไร? ให้ลักลอบส่งผู้ก่อการร้ายกลับไปหรือ?” จากนั้นเขาก็โจมตีคำถามเกี่ยวกับนายการ์เซียว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ” และว่าเขาจะไม่ปล่อยตัวนายการ์เซียเพราะเขาไม่ชอบปล่อยคนออกจากเรือนจำของเขา

“คำถามนี้มันไร้สาระมาก” นายบูเคเลกล่าว “ผมไม่มีอำนาจจะคืนตัวเขากลับสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ นายอาเบรโก การ์เซีย เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ผู้อพยพเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2554 ตั้งแต่มีอายุ 16 ปี ต่อมาในปี 2562 ผู้พิพากษาตัดสินใจมอบสถานะ “ระงับจากการเนรเทศ” (withholding of removal) ให้แก่เขา และนายการ์เซียก็ทำงานอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ มาตลอดนับแต่นั้น

อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 มี.ค. 2567 นายอาเบรโก การ์เซีย ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าสถานะการอพยพของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ก่อนที่เขาจะถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ และส่งตัวไปเข้าเรือนจำความมั่นคงสูงสุดในประเทศเอลซัลวาดอร์ ในวันที่ 15 มี.ค. โดยที่เขาไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิด หรือตั้งข้อหาใดๆ ในสหรัฐฯ เลย

เรื่องนี้ทำให้ภรรยาของนายการ์เซียยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งในเวลาต่อมารัฐบาลได้ยอมรับต่อศาลว่า ถึงแม้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (ICE) จะรู้ว่านายการ์เซียได้รับความคุ้มครองจากการถูกเนรเทศ แต่เขาก็ถูกส่งตัวไปยังเอลซัลวาดอร์เนื่องจากความผิดพลาดด้านการดำเนินการ

ด้านนายทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อกำจัดอาชญากรอันตราย และเขายินดีอย่างยิ่งที่จะส่งพลเรือนสหรัฐฯ ที่เป็นอาชญากรรมไปยังเรือนจำต่างประเทศอย่างเช่นเรือนจำ “ซีคอต” (Cecot) ในเอลซัลวาดอร์

ในเวลาต่อมา นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ พูดถึงเรื่องนายอาเบรโก การ์เซีย อีกครั้ง โดยระบุว่า “ผมไม่เข้าใจเลยว่ามีอะไรน่าสับสน” และย้ำว่า นายอาเบรโก การ์เซีย คือชาวเอลซัลวาดอร์ที่เข้าสู่สหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย และถูกส่งตัวกลับประเทศของเขาไปแล้ว

นายรูบิโอยังพาดพิงศาลสูงสุดที่ตัดสินยืนตามศาลชั้นก่อนว่าให้นำตัวนายการ์เซียกลับมา ว่า ผู้ออกนโยบายต่างประเทศคือประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่ศาล และว่า ศาลไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้

จากนั้นนายสตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาของนายทรัมป์ ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า ศาลสูงสุดพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน “เราชนะคดีด้วยคะแนน 9 ต่อ 0 แต่พวกอย่างซีเอ็นเอ็นกลับบอกว่าเป็นความพ่ายแพ้”

ความจริงแล้ว ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ลงมติ 9 ต่อ 0 ปฏิเสธที่จะขัดขวางคำสั่งของศาลชั้นก่อนหน้า ที่บอกให้รัฐบาลสหรัฐฯ อำนวยความสะดวกในการพานายคิลมาร์ อาเบรโก การ์เซีย กลับสหรัฐฯ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *