ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งยืนยันให้บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้า “Nescafé” และ “เนสกาแฟ” ในประเทศไทย หลังความขัดแย้งทางกฎหมายที่ยาวนาน

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ทป 58/2568 ได้มีคำสั่งชี้ขาดว่าเนสท์เล่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทยได้ตามปกติทันที

นายแพทย์วิศิษฐ์ ลิ้มศิริวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เรายินดีกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถกลับมาบริการลูกค้าและผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง”

ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งมีนบุรีเคยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ที่ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสกาแฟของเนสท์เล่ในประเทศไทย โดยมีผลให้ต้องหยุดการจำหน่ายชั่วคราว

“คำสั่งศาลครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อเนสท์เล่เท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบ ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ พนักงาน ร้านค้าปลีก ไปจนถึงผู้บริโภค” ผู้จัดการทั่วไปเนสท์เล่ไทยกล่าวเสริม

ทั้งนี้ เนสท์เล่ยืนยันว่ามีหลักฐานครบถ้วนว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ อย่างเคร่งครัด และเคยชนะคดีนี้ในศาลอนุญาโตตุลาการสากลมาก่อนแล้ว

บริษัทฯ ยังได้แจ้งไปยังลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจให้ทราบถึงการกลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติ พร้อมขอบคุณผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนในช่วงเวลาที่ผ่านมา