จากข้อพิพาททางกฎหมายที่เขย่าวงการกาแฟเมืองไทยระหว่าง เนสท์เล่ บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก เจ้าของแบรนด์ เนสกาแฟ กับตระกูลมหากิจศิริ ซึ่งร่วมกันก่อตั้งบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) เพื่อผลิตกาแฟ ตั้งแต่ปี 2533 และยุติสัญญาในวันที่ 31 ธ.ค.2567 ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งชี้ขาดให้ เนสท์เล่ เป็นผู้ถือสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Nescafe และ เนสกาแฟ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ

วันที่ 13 เม.ย.68 บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ออกประกาศยืนยันว่า เนสกาแฟกลับมาขายได้ตามปกติแล้ว หลังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งยืนยันว่า เนสท์เล่ เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้า “Nescafe” และ “เนสกาแฟ” ในประเทศไทย

เนสท์เล่ ระบุว่า คำสั่งศาลนี้จะช่วยหยุดผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อผู้ประกอบการขนาดเล็ก ร้านค้าปลีก คู่ค้าซัพพลายเออร์ และพนักงานในห่วงโซ่คุณค่าของเนสกาแฟ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนหน้านี้ที่ออกโดยศาลแพ่งมีนบุรี นอกจากนี้ ผู้บริโภคจะสามารถหาซื้อและบริโภคผลิตภัณฑ์เนสกาแฟทุกชนิดที่มีอยู่ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง

เนสท์เล่ ยังยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด และมีหลักฐานของการปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาอย่างครบถ้วน พร้อมขอบคุณผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนเนสกาแฟ ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้

ทั้งนี้ เนสท์เล่ ยังคงมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและจะยังคงเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์แก่ผู้บริโภค พนักงานของเรา เกษตรกรที่ทำงานร่วมกับเรา ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ และคู่ค้าของเรา