ตลาดการเงินสั่นสะเทือน! ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนักถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในวันที่ 4 เมษายน Bitcoin (BTC) กลับพุ่งสวนทางแตะ 84,720 ดอลลาร์ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับตลาดหุ้น ท่ามกลางสงครามภาษีที่ร้อนระอุของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคำเตือนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับ “เงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ช้าลง”

พาวเวลล์ กล่าวในงานประชุมเมื่อวันที่ 4 เมษายนว่า นโยบาย “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ของทรัมป์อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป ซึ่งจะยิ่งทำให้เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเฟดซับซ้อนขึ้น หลังจากที่เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน “ถึงภาษีศุลกากรอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นชั่วคราว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ผลกระทบจะยืดเยื้อ” พาวเวลล์ระบุ พร้อมย้ำว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าแนวทางนโยบายการเงินที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร”

เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่พาวเวลล์จะแถลง ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social เรียกร้องให้เฟด “ปรับลดอัตราดอกเบี้ย” พร้อมเหน็บแนมพาวเวลล์ว่า “มาสายเสมอ” ขณะที่เฟดกำลังเผชิญทางเลือกสำคัญ ระหว่างหยุดการลดดอกเบี้ยตลอดทั้งปี หรือเร่งลดดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลง

วันเดียวกันนั้น ดัชนี DOW ร่วงลงถึง 2,200 จุด และ S&P 500 ขาดทุน 10% ในสองวัน ‘Watcher Guru’ แหล่งข้อมูลตลาดบน X รายงานว่า “มูลค่า 3.25 ล้านล้านดอลลาร์หายไปจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่มีเงิน 5.4 พันล้านดอลลาร์ไหลเข้าตลาดคริปโต”

นักวิเคราะห์คาดว่า บิทคอยน์ อาจเผชิญความผันผวนในระยะสั้น หลังคำเตือนของพาวเวลล์เกี่ยวกับเงินเฟ้อและการว่างงานที่อาจสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนในตลาดดั้งเดิมหวั่นไหว และหันมาลงทุนใน BTC แทน โดยนักวิเคราะห์อย่าง Cory Bates ชี้ว่า “บิทคอยน์กำลังแยกตัวออกจากตลาดหุ้นต่อหน้าต่อตาเรา”