สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนปะทุ ไทยเร่งตั้งทีมเจรจา หวั่นผลกระทบเศรษฐกิจโลก

ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าอย่างแข็งกร้าว ส่งผลให้รัฐบาลไทยต้องเร่งตั้งทีมเจรจาพิเศษเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะทีมเจรจา ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยมีกำหนดเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันที่ 17 เมษายนนี้

ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นผลจากนโยบาย “Make America Great Again” ของทรัมป์ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีกับจีนเพียงประเทศเดียว

“นี่คือปัญหา Geopolitics ที่ซับซ้อน กระทบทั้งภาคการค้าและการเงินระหว่างประเทศ” ดร.ปานปรีย์กล่าว พร้อมเตือนว่าการที่จีนย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในเอเชีย รวมถึงไทยและเวียดนาม อาจทำให้ไทยได้รับผลกระทบจากการตอบโต้ของสหรัฐฯ ด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศวิเคราะห์ว่า การที่ทรัมป์ประกาศเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีออกไป 90 วัน เป็นโอกาสให้ไทยสามารถเตรียมยุทธศาสตร์การเจรจาได้อย่างรอบคอบ โดยควรแบ่งประเด็นการเจรจาออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ไทยสามารถยินยอมได้ กลุ่มที่อาจมีผลกระทบต่อประเทศ และกลุ่มที่สหรัฐฯมีความคาดหวังสูง

ทั้งนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าครั้งนี้ถูกจับตามองว่าจะพัฒนาต่อไปในทิศทางใด หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 54% และอาจเพิ่มเป็น 125-150% ในอนาคตอันใกล้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *