อุทยานแห่งชาติวิรุงกา ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เผชิญกับเหตุการณ์น่าเศร้า หลังพบฮิปโปโปเตมัสกว่า 50 ตัว และสัตว์ขนาดใหญ่อื่นๆ เสียชีวิตจากการติดเชื้อแอนแทรกซ์ โดยพบซากฮิปโปลอยตามแม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเลสาบเอ็ดเวิร์ด

เอ็มมานูเอล เดอ เมโรเด ผู้อำนวยการอุทยานฯ ยืนยันผลการทดสอบพบเชื้อแอนแทรกซ์ พร้อมเปิดเผยว่าควายป่าก็ตายด้วยเช่นกัน แต่สาเหตุการระบาดยังไม่ชัดเจน ภาพจากอุทยานแสดงให้เห็นซากฮิปโปบางส่วนนอนหงายในแม่น้ำอิชาชา หรือติดอยู่ริมฝั่ง

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสูญเสียอย่างหนักให้กับอุทยานฯ ที่พยายามฟื้นฟูประชากรฮิปโปมาตลอดหลายทศวรรษ หลังจำนวนลดฮวบจากกว่า 20,000 ตัว เหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัวในปี 2549 จากปัญหาการล่าและสงคราม ปัจจุบันมีฮิปโปประมาณ 1,200 ตัว

เจ้าหน้าที่เริ่มสังเกตเห็นปัญหาเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา หลังพบซากฮิปโปตามแม่น้ำพรมแดนคองโก-ยูกันดา ซึ่งบางส่วนอยู่ในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏ โรคแอนแทรกซ์เกิดจากแบคทีเรียในดิน โดยสัตว์สามารถติดเชื้อผ่านการสูดสปอร์จากดิน พืช หรือน้ำปนเปื้อน

สถาบันอนุรักษ์ธรรมชาติคองโกออกประกาศเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงสัตว์ป่า และต้มน้ำก่อนดื่ม ขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่พยายามกู้ซากฮิปโปขึ้นฝั่งเพื่อฝังด้วยโซดาไฟ แต่ประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์และความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่

โทมัส คัมบาเล ผู้นำท้องถิ่นรายงานพบซากฮิปโปอีกกว่า 25 ตัวลอยในทะเลสาบเอ็ดเวิร์ด บริเวณระหว่างเมืองคาเกซีถึงนยากาโกมา

อุทยานวิรุงกาซึ่งมีพื้นที่ 7,800 ตารางกิโลเมตร ถือเป็นพื้นที่คุ้มครองที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่อันตรายที่สุดจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพและกลุ่มกบฏที่ต่อสู้แย่งชิงทรัพยากร