ช็อก! พบศพแม่เฒ่า 89 ถูกฆ่ายัดกระสอบปุ๋ย คาทุ่งนา นครศรีฯ วินที่ไว้ใจหายตัวพร้อม 2.5 แสน ญาติโวยตำรวจล่าช้า
นครศรีธรรมราช – ช็อก! พบศพหญิงชราวัย 89 ปี ที่หายตัวไป 4 วัน ถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ยัดศพใส่กระสอบปุ๋ยทิ้งกลางทุ่งนาที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทรัพย์สินที่ติดตัวไปกว่า 2.5 แสนบาทสูญหายทั้งหมด ผู้ต้องสงสัยคือคนขับวินจักรยานยนต์ที่ผู้ตายใช้บริการประจำ ซึ่งขณะนี้หายตัวไปติดต่อไม่ได้ ด้านญาติผู้ตายโวยตำรวจล่าช้าในการติดตามตัว ปล่อยให้คนร้ายมีเวลาหลบหนี ทั้งที่มีเบาะแสชัดเจนจากกล้องวงจรปิด
วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ความคืบหน้ากรณี นางหนูนิล นิจภาพ อายุ 89 ปี หญิงชราในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หายตัวออกจากบ้านพักภายในหมู่บ้านนรเศรษฐ์ ถ.พัฒนาการคูขวาง ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยญาติได้เข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า นางหนูนิล ได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างออกจากหมู่บ้านไปในวันเกิดเหตุ โดยมีทรัพย์สินติดตัวไป ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 10,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พระเครื่อง และแหวนทองคำหนัก 2 สลึง รวมมูลค่ากว่า 250,000 บาท
นายจรัส ขวัญทอง อายุ 65 ปี ลูกชายของนางหนูนิล ได้พยายามติดตามตัวแม่ โดยสอบถามจากคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างรายหนึ่งที่รับแม่ไป ซึ่งตอนแรกคนขับอ้างว่าไปส่งที่ห้างโลตัสเพื่อกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม และผู้ตายบอกว่าลูกจะมารับ แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ห้างโลตัส กลับพบว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคนดังกล่าวได้ขับพานางหนูนิลออกจากห้างโลตัส ขับผ่านหน้าหมู่บ้านการเคหะ และมุ่งหน้าไปทางถนนสิรินครอุทิศ ก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไป
หลังจากนั้น ญาติก็ไม่สามารถติดต่อกับคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างรายนี้ได้อีก สอบถามจากญาติของคนขับทราบว่าได้เปลี่ยนซิมการ์ดมือถือและได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ของวันนี้ (12 พ.ค. 2568) พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รายงานให้ พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ทราบว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและชุดค้นหาได้ออกติดตามจนกระทั่งพบร่างของ นางหนูนิล แล้ว โดยร่างถูกฆาตกรรมและยัดใส่กระสอบปุ๋ยนำมาทิ้งไว้กลางทุ่งนา ริมถนนเทิดพระเกียรติ พื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างของนางหนูนิลอยู่ในกระสอบปุ๋ย บริเวณส่วนศีรษะถูกยัดเข้าไปในกระสอบและใช้เชือกฟางผูกมัดปากกระสอบไว้อย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่ได้นำร่างออกจากกระสอบ พบว่าร่างอยู่ในสภาพบอบช้ำ สร้างความสะเทือนใจให้กับลูกหลานที่ตามมาดูเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
บรรยากาศที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความไม่พอใจ ลูกหลานของนางหนูนิลได้ส่งเสียงโวยวายตลอดเวลา โดยกล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าพวกเขาได้เข้าแจ้งความและให้ข้อมูลเบาะแส รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่ยืนยันว่าผู้ตายหายไปขณะอยู่กับคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคนดังกล่าวแล้วหลายวัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่เร่งดำเนินการติดตามจับกุม โดยอ้างว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอ จนกระทั่งผู้ต้องสงสัยมีเวลาหลบหนีไปได้
สำหรับผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีนี้คือ นายเจริญ ศรีจำรัส อายุ 55 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งญาติของผู้ตายได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและยืนยันว่าเป็นนายเจริญที่มารับผู้ตายไปในวันเกิดเหตุ
นายพิเชษฐ์พงศ์ ผู้ที่รู้จักกับนายเจริญ ให้ข้อมูลว่า นายเจริญขับวินอยู่ที่คิวหน้าห้างโลตัสในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีนิสัยชอบเล่นการพนันไฮโลและดื่มเหล้าขาว ก่อนหน้านี้ยังได้โทรศัพท์พูดคุยกัน โดยนายเจริญบอกว่าอยู่เกาะสมุยบ้าง จังหวัดภูเก็ตบ้าง แต่เมื่อวันนี้ (12 พ.ค.) ลองโทรศัพท์ไปอีกครั้ง นายเจริญกลับตัดสายทิ้ง
ด้านญาติของนางหนูนิล ยืนยันว่า พวกเขาพยายามนำหลักฐานและข้อมูลไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร จนกระทั่งเรื่องไปถึง พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เร่งรัดให้ชุดสืบสวนทำงานอย่างจริงจัง จนนำมาสู่การพบศพในที่สุด ญาติเชื่อมั่นว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรมเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดของผู้ตายหายไปเกลี้ยง และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัว นายเจริญ ศรีจำรัส มาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนอย่างมาก จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางหนูนิล และ นายเจริญ มีความสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจกัน เนื่องจากนางหนูนิลใช้บริการให้นายเจริญมารับส่งเป็นประจำนานถึง 4-5 ปี จึงเชื่อว่าสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และติดตามตัว นายเจริญ ศรีจำรัส มาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป