ชลบุรี – เกิดอุบัติเหตุสลดบนถนนที่อำเภอพานทอง ชายชราวัย 87 ปี ขับรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของสองตายาย ก่อนจะเหยียบซ้ำศีรษะผู้เป็นตาจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้เป็นยายไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ด้านคนขับกระบะไม่ได้จอดดูเหตุการณ์ทันที แต่หนีไปตั้งหลักก่อนเข้ามอบตัว โดยอ้างว่าไม่คิดว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะเห็นผู้ชายยังสามารถยืนได้

เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 พันตำรวจโท ประเสริฐ กุลบุตรดี สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรพานทอง ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส บนถนนศุขประยูร ขาเข้าพนัสนิคม บริเวณหน้าวัดหนองแช่แว่น ตำบลมาบโป่ง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบร่างของ นายสมหมาย ฤทธิ์งาม อายุประมาณ 70 ปี อยู่ในสภาพสวมหมวกกันน็อคที่แตกเสียหายอย่างรุนแรง ศีรษะถูกล้อรถเหยียบจนสมองกระจาย เสียชีวิตคาที่ ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน งพม 688 ชลบุรี ล้มอยู่บนถนน ข้าวของเครื่องใช้ เช่น ผงซักฟอก อาหาร และกล้วยทอด ที่ผู้ตายทั้งสองอาจจะเพิ่งซื้อมา กระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ใกล้กันพบร่างของ นางสาวทองรักษ์ อายุ 72 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพานทอง แม้แพทย์จะพยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่นางสาวทองรักษ์ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน

พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ตนเองขับรถตามหลังรถกระบะคันที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเก่า สีน้ำเงินออกดำ หมายเลขทะเบียนคร่าวๆ 1330 เห็นเหตุการณ์ชนและรถกระบะขับต่อไปโดยไม่หยุด ตนพยายามขับตามแต่ไม่ทัน จึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะรีบกลับไปทำธุระ

ต่อมา นายถวิล ทองนุช อายุ 87 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรพานทอง พร้อมกับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผฉ 1330 ชลบุรี ซึ่งมีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ด้านหน้า ผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนกำลังขับรถจะไปอำเภอพนัสนิคม โดยรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตอยู่ทางซ้าย แต่จู่ๆ รถจักรยานยนต์ก็เลี้ยวตัดหน้า ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนขึ้น

นายถวิล ยอมรับว่าไม่ได้จอดดูเหตุการณ์ทันที โดยให้เหตุผลที่สร้างความตกใจว่า “ไม่คิดว่าตาย เพราะยังเห็นเขายืนอยู่เลย คนขับรถเครื่องนั่นแหละยังยืนอยู่” ด้วยความเข้าใจผิดนี้จึงไม่ได้จอดดู และขับรถต่อไปทันที โดยตั้งใจจะกลับไปหาลูกสาวก่อนเพื่อตั้งสติแล้วค่อยเข้ามอบตัว

นายถวิล ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาที่จะชน และอยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตทุกคน พร้อมยอมรับผิดชอบทุกอย่าง แม้จะรู้ว่ามีคนขับรถตามหลังและถ่ายรูปไว้ แต่ก็ไม่ได้จอด เพราะกำลังจะไปหาลูกสาวและตั้งใจจะโทรหาลูกสาว แต่เพิ่งนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านจึงได้บอกลูกสาวว่าตนขับรถชนคนอื่น โดยที่ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วจริงๆ เพราะเข้าใจว่าผู้ชายที่ชนยังลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ตนไม่ได้ตั้งใจหนี เพียงแต่ต้องการไปตั้งสติกับลูกสาวเพื่อเตรียมตัวเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพานทอง จะทำการสอบสวน นายถวิล ทองนุช อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป