สลด! เก๋งชนท้ายรถบรรทุก พังยับเยิน มอเตอร์เวย์สาย 7 กม.23 เสียชีวิตคาซาก 3 ราย

ชลบุรี – เกิดเหตุอุบัติเหตุสลดกลางดึกที่ผ่านมา บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ฝั่งขาออก ใกล้หลักกิโลเมตรที่ 23+300 เลนซ้าย รถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถบรรทุกอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้รถเก๋งพังยับเยินทั้งคัน และมีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถถึง 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 24 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์อุบัติเหตุทางถนนที่สร้างความโศกเศร้า บนถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญมุ่งหน้าออกนอกกรุงเทพมหานคร โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงหลักกิโลเมตรที่ 23+300 ในช่องจราจรซ้ายสุด มุ่งหน้าไปยังจังหวัดชลบุรี

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูและเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ พบซากรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อหนึ่ง รุ่น สี ไม่ปรากฏชัด เนื่องจากสภาพรถได้รับความเสียหายอย่างหนักจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม โดยเป็นรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน ขค 1616 จังหวัดอุดรธานี สภาพรถพังยับเยินทั้งด้านหน้าและตัวถัง อัดก๊อปปี้เข้ากับส่วนท้ายของรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งจอดอยู่ใกล้เคียง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นภายในซากรถยนต์เก๋ง เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ซึ่งติดอยู่ภายในซากรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างและเครื่องมือพิเศษในการเข้าช่วยเหลือและนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากรถด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางความมืดและสถานการณ์ที่ตึงเครียด

พยานในที่เกิดเหตุและข้อมูลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่า รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกที่คาดว่าอาจจะกำลังจอดอยู่ หรือเคลื่อนตัวช้าๆ ในช่องจราจรซ้ายสุดด้วยความเร็ว ซึ่งแรงกระแทกที่รุนแรงทำให้รถเก๋งพังยับเยินทันที และเป็นเหตุให้ผู้ที่นั่งอยู่ในรถเสียชีวิตทั้งหมด

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด บันทึกภาพ รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนพยานแวดล้อม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุสลดในครั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากความประมาท ความบกพร่องของยานพาหนะ สภาพถนน หรือปัจจัยอื่นใด ซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อไป

เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยามค่ำคืน โดยเฉพาะบนเส้นทางหลวงที่มีความเร็วสูง และควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลเบื้องต้นจาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *