สิงห์บุรี – เกิดอุบัติเหตุสุดเศร้า! แก๊งเด็กหญิงวัย 14 ปี 4 คน พากันขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 4 ออกไปซื้อชานมกิน ขากลับถึงบริเวณโค้งสะพานคู่ ถนนสายอินทร์บุรี-หนองสุ่ม อ.อินทร์บุรี รถเกิดเสียหลักแหกโค้งชนราวเหล็กกั้นถนน ร่างกระเด็นตกข้างทาง เคราะห์ร้ายเด็กหญิงที่นั่งซ้อนท้ายมาศีรษะฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูงเสียชีวิตคาที่ 1 ราย ส่วนเพื่อนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 26 เมษายน 2568 ร้อยตำรวจโทมนเทียน ภูเขา สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้งตกลงไปข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบประสานไปยังแพทย์เวรโรงพยาบาลอินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดอินทร์บุรี ให้เร่งเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือเป็นการด่วน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า “โค้งสะพานคู่” ซึ่งเป็นจุดที่เคยเป็นสะพานคู่เก่าและถัดมาเป็นทางโค้งอันตราย บนถนนสายอินทร์บุรี-หนองสุ่ม หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยชัน อำเภออินทร์บุรี พบร่องรอยการครูดบนพื้นถนนเป็นทางยาว ก่อนจะพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กพท 949 สิงห์บุรี ล้มคว่ำอยู่บริเวณข้างทาง ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กหญิงรายหนึ่ง อายุประมาณ 14 ปี นอนแน่นิ่งอยู่ มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ คาดว่าศีรษะน่าจะฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัยเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง เจ้าหน้าที่ได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เด็กหญิงทั้ง 4 คนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกมาจากบ้าน โดยมีคนหนึ่งเป็นผู้ขับขี่ และอีก 3 คนซ้อนท้าย เพื่อไปซื้อชานมที่ร้านค้าในละแวกใกล้เคียง เมื่อซื้อชานมเสร็จและกำลังเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงบริเวณ “โค้งสะพานคู่” ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอก ประกอบกับอาจใช้ความเร็วเกินไป ทำให้รถจักรยานยนต์เกิดเสียหลัก แหกโค้ง พุ่งชนเข้ากับราวเหล็กกั้นขอบทาง ก่อนที่รถและคนจะกระเด็นตกลงไปข้างทาง ด้วยความโชคร้าย เด็กหญิงผู้เสียชีวิตซึ่งนั่งซ้อนท้ายมา ได้กระเด็นไปในทิศทางที่ศีรษะพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูงอย่างจัง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และตรวจสอบร่องรอยต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ จะได้เรียกผู้ปกครองและเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ปกครองให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลบุตรหลาน โดยเฉพาะการใช้รถใช้ถนนของเด็กและเยาวชน ซึ่งยังไม่มีวุฒิภาวะและทักษะในการขับขี่ที่เพียงพอ อาจนำมาซึ่งความสูญเสียอันน่าเศร้าได้เช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้.