ส.อ.ท. เร่งหารือกลุ่มอุตสาหกรรมรับมือมาตรการภาษีทรัมป์ คาดเสียหาย 8-9 แสนล้านบาท
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเร่งด่วนกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือมาตรการรับมือผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไทยถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 36% ส่งผลให้คาดการณ์มูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 8-9 แสนล้านบาท
อุปสรรคทางการค้าที่สำคัญ
ที่ประชุมได้ระบุถึงอุปสรรคทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ประกอบด้วย:
- อัตราภาษีสูงและข้อจำกัดด้านการนำเข้า
- มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS Measures)
- ขั้นตอนศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลัก
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่:
- ยานยนต์และชิ้นส่วน: ถูกเก็บภาษี 25% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 อาจส่งผลให้บริษัทแม่พิจารณาย้ายฐานการผลิต
- อาหารแปรรูปและสินค้าประมง: อัตราภาษีปรับจาก 0% เป็น 36% ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน
- พลาสติกและเคมีภัณฑ์: มูลค่าส่งออกประมาณ 5-6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาด
- สิ่งทอ: อาจต้องชะลอการผลิตเนื่องจากต้นทุนเพิ่มขึ้น
มาตรการรับมือ
ส.อ.ท. ได้หารือกับกระทรวงการคลังเพื่อเตรียมมาตรการรับมือ เช่น:
- เจรจาสร้างความสมดุลการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ
- แก้กฎหมายและภาษีนำเข้าเพื่อสนับสนุนการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ
- ออกมาตรการใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
- ทบทวนภาษีและมาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี
ทั้งนี้ ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วน เพื่อเจรจาต่อรองกับสหรัฐและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น