สธ. เผยไทยมีต่างด้าวป่วยโรคต้องเฝ้าระวัง 1.7 ล้านคน เร่งทำระบบยืนยันตัวตนลดเสี่ยงโรคติดต่อ
วันที่ 4 เม.ย. 2568 – กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูลน่าตกใจว่าประเทศไทยมีประชากรต่างด้าวที่มีภาวะสุขภาพและโรคต้องเฝ้าระวังสูงถึง 1.7 ล้านคน จากจำนวนต่างด้าวทั้งหมดกว่า 5 ล้านคน โดยเร่งพัฒนาระบบยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีชีวมิติเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า พบผู้ป่วยต่างด้าวสะสมระหว่างปี 2566-2567 จำนวน 1,704,626 ราย เสียชีวิต 3,955 ราย โดยเฉพาะโรคติดต่อชายแดนเช่น วัณโรค มาลาเรีย และอหิวาตกโรค
“ปี 2568 คาดการณ์มีประชากรต่างด้าว 5.3 ล้านคน แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มแรงงานและผู้ติดตาม 3.4 ล้านคน 2.กลุ่มบุคคลปัญหาสถานะสิทธิ 736,775 คน และ 3.กลุ่มไม่มีเอกสาร 1.2 ล้านคน ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นปัญหาสำคัญในการยืนยันตัวตน” นายสมศักดิ์ กล่าว
กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนา “ระบบ TRCBAS” ของสภากาชาดไทย ที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและม่านตา เพื่อลงทะเบียนและยืนยันตัวตนประชากรแฝง โดยเริ่มดำเนินการใน 5 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ตาก และกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเสริมใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ หลังปี 2567 พบผู้เสียชีวิต 11 ราย ในจำนวนนี้ 9 รายเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
“โรคหัดป้องกันได้ด้วยวัคซีน ขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานอายุ 9 เดือน และ 1.5 ปี ไปรับบริการฟรีที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง” รมว.สธ. กล่าวทิ้งท้าย